Eric van Miltenburg หัวเรือใหญ่ของ Ripple ยืนยันว่าจะนำระบบ On-Demand Liquidity (ODL) มาใช้เพิ่มอีกสองประเทศคือประเทศไทยและออสเตรเลีย และได้เปิดเผยถึงลายละเอียดของส่วนขยายใหม่ที่อยู่บนพื้นฐานสกุลเงิน XRP
ซึ่งมีชื่อเรียกว่า On-Demand Liquidity (ODL) โดยระบบนี้จะช่วยอำนวยความสะดวกในเรื่องการโอนเงินระหว่างประเทศ
หลังจากมีการประชุมในสิงคโปร์ Eric ได้เปิดเผยถึงแผนกลยุทธ์ในการเปิดตัว โดยเร็วๆนี้จะเปิดตัวที่ออสเตรเลียและเปิดตัวที่ไทยภายในปี 2020 และได้กล่าวว่า “เราได้เปิดตัวที่เม็กซิโกและฟิลิปปินส์ในปีที่แล้วซึ่งในปีนี้จะเป็นตาของออสเตรเลียและเรายังมีรายชื่อประเทศอื่นๆที่อยู่ในแผนกลยุทธ์ของเราและประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในนั้น”
Eric ได้แสดงความเห็นในเรื่องการนำเทคโนโลยี On-Demand Liquidity (ODL) มาใช้ว่าจะต้องมีการคำนึงถึงข้อกฏหมายต่างๆและช่องว่างทางกฏหมายที่อาจจะเกิดขึ้นหลังจากนำมาใช้
“ในแต่ละประเทศมีการควบคุมแตกต่างกันไปซึ่งขึ้นอยู่กับวิศัยทัศน์และมุมมองในการนำมาปรับใช้กับสินทรัพย์ดิจิตอลยกตัวอย่างประเทศจีนและอินเดียที่ไม่ได้มีการสนับสนุนในอุสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิตอลโอกาสในการเติบโตก็อาจจะไม่ได้ตามที่คาดหวังดังนั้นเราจึงเลือกเข้าร่วมในตลาดที่ลูกค้ามีความเข้าใจในระบบเพื่อให้ลูกค้ามีความมั่นใจในด้านความคุ้มครองตามกฏระเบียบและตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค”
ก่อนหน้านี้ Ripple เคยได้ปล่อยระบบ ODL มาก่อนแล้ว ในตุลาคม 2018 โดยในตอนนั้นใช้ชื่อ “xRapid”ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อใช้เป็นสะพานเชื่อมในการแลกเปลื่ยนระหว่างเหรียญ XRP และ สกุลเงินต่างประเทศ มีกระบวนการแลกเปลี่ยนเหรียญ XRP ให้เป็นเงินตราที่ได้รับการรับรองจากสถาบันการเงิน โดยที่ค่าเงินจะเปรียบเทียบเรทของ XRP กับสกุลเงินในประเทศที่ต้องการแลกเปลื่ยน
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง : จีนมองบล็อกเชนและเอไอใช้กับธุรกรรมการเงินระหว่างประเทศ