ผู้ที่เคยมีประสบการณ์ลงทุนใน ICO มาบ้างแล้วย่อมจะต้องเคยผ่านตากับการอ่าน White Paper มากันบ้างแล้ว ตัว White Paper ถือได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เรารู้ได้ว่าการระดมทุน ICO โปรเจคท์นั้นๆมีคุณภาพหรือไม่ เพราะข้อมูลการเสนอขายทั้งหมดจะถูกนำไปรวบรวมอยู่ในนั้น
นอกจาก White Paper แล้วยังมีเอกสารอีกชิ้นนั่นคือ Light Paper ซึ่งเป็นเอกสารฉบับย่อเน้นใจความสำคัญนั่นเอง แล้วแต่ว่าเราให้เวลากับการศึกษาข้อมูลมากน้อยเพียงใด
เนื้อหาใน White Paper อาจจะไม่ถึงขั้นมีสูตรตายตัวว่าต้องมีข้อมูลอะไรบ้าง ทั่วไปแล้วเนื้อหาจะแบ่งออกเป็นสองส่วนคือข้อมูลทั่วไปของโปรเจคท์และข้อมูลทางเทคนิคซึ่งจะเน้นไปที่เรื่องของเทคโนโลยีเป็นหลัก รวมถึงความยาวของ White Paper ก็มีหลากหลาย ตั้งแต่ประมาณสิบกว่าหน้าไปจนถึงระดับ 30-40 หน้า เนื้อหาทั่วไปใน White Paper ที่เราควรต้องอ่านเพื่อศึกษามีตั้งแต่
ประวัติของบริษัทฯที่ระดมทุนเราต้องศึกษาว่าบริษัทฯผู้ออก ICO มีประสบการณ์และความชำนาญในธุรกิจและเทคโนโลยีนั้นๆเพียงใด หากเป็นสตาร์ทอัพที่ดำเนินธุรกิจมาได้ระยะเวลาหนึ่งหรือได้รับการระดมทุนจากวีซีแล้ว โปรเจคท์นั้นๆจะมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น แต่หากเป็นบริษัทเกิดใหม่ที่มีอายุน้อย โอกาสที่โปรเจคท์นั้นๆจะล้มเหลวก็มีสูง รวมถึงประวัติของทีมบริหาร (Management Team) ก็เช่นกัน ต้องอ่านและตรวจเช็คให้ดีว่ามีประสบการณ์ในธุรกิจมากน้อยเพียงใด
รายละเอียดของโปรเจคท์เช่นนำเงินไปใช้ลงทุนอะไร เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมใด มีหน่วยงานกำกับดูแลหรือไม่ มีกฎหมายอะไรที่เกี่ยวข้อง ฯลฯ ที่สำคัญที่สุดคือต้องพิจารณาว่าโปรเจคท์มีความเป็นไปได้ที่จะสำเร็จหรือไม่ ทางที่ดีควรจะลงทุนใน ICO ที่ตัวเราเองมีความเข้าใจเป็นอย่างดี
การนำ Blockchain มาใช้ในโปรเจคท์ถือเป็นสิ่งสำคัญของการระดมทุนด้วย ICO เพราะเทคโนโลยี Blockchain กับ Crypto Currency เป็นอะไรที่ควบคู่มาพร้อมกันไม่ต่างอะไรระหว่างไก่กับไข่ ทั่วไปแล้วใน White Paper จะต้องชูจุดขายของการนำ Blockchain มาใช้ประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งใหม่ที่ยังไม่เคยเกิดขึ้นบนโลกหรือเป็นการช่วย Scale Up ธุรกิจให้ขยายได้อย่างรวดเร็ว หากโปรเจคท์ใดไม่ค่อยนำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้จะทำให้ความน่าสนใจลดน้อยลงไปพอสมควร เรียกได้ว่าเป็นจุดขายของโปรเจคท์เสียด้วยซ้ำ โดยเฉพาะการใช้ Keyword ว่าไร้ตัวกลาง (Decentralize)
ประเภทของ Token เป็นอีกหัวข้อสำคัญที่ต้องพิจารณา เพราะมีประเด็นทางกฎหมายเข้ามาเกี่ยวข้องในกรณีที่ผู้ออก ICO ออกเหรียญเป็น Securities หรือ Equities Token ส่วนมากแล้วการระดมทุน ICO ในปัจจุบันมักจะเป็น Utilities Token นักลงทุนจึงต้องศึกษาว่าการนำเหรียญนั้นๆมาใช้ในโปรเจคท์มีเหตุผลรองรับเพียงใดและคนส่วนมากจะยอมรับหรือไม่เพราะจะนำไปสู่ความนิยมในเหรียญนั้นๆในอนาคต
นอกจากนี้ Crypto Currency ที่นำมาใช้อ้างอิงหรือสร้าง Smart Contract ก็มีความสำคัญเช่นกัน หากเหรียญที่ใช้อ้างอิงมีสภาพคล่องต่ำหรือได้รับความนิยมน้อย จะทำให้เกิดความยากลำบากในการซื้อขายแลกเปลี่ยนได้เช่นกัน ทั่วไปแล้วการระดมทุน ICO ทั่วโลกจะใช้ Etherium ซึ่งมีสภาพคล่องอันดับสองของโลกในการอ้างอิง แต่ตอนนี้เหรียญ Stellar ก็เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเช่นกัน
วิธีการระดมทุน เป็นอีกหัวข้อที่มีความสำคัญ หากวิธีการระดมทุนมีความยากลำบากและผิดแปลกไปจากวิธีการที่ใช้กันทั่วโลก เช่น ระดมทุนด้วยเงิน Fiat แต่ไม่ได้ล๊อคราคาของ Crypto Currency ที่ใช้อ้างอิงไว้ อาจจะเจอปัญหาที่ราคา Token ลดลงโดยไม่ได้ตั้งใจก็เป็นได้ หรือผู้ออกใช้วิธีการระดมทุนที่ไม่โปร่งใส
ความสมเหตุสมผลของการระดมทุนข้อนี้เป็นการให้ความสำคัญกับตัวเลขการระดมทุนเป็นหลักเพราะถ้าหากต้องการรระดมทุนในตัวเลขที่สูงเกินไป อาจมองได้ว่าเจ้าของโปรเจคท์มีความโลภต้องการเงินจำนวนมาก นักลงทุนต้องอ่านให้ลึกว่าโปรเจคท์นั้นๆมีความจำเป็นต้องใช้เงินลงทุนมากถึงขั้นที่ระบุไว้หรือไม่ ขณะเดียวกันการระดมทุนที่น้อยเกินไปบางครั้งก็ไม่สมเหตุสมผลในการที่จะลงทุนเช่นกัน
ความสวยงามเป็นระเบียบของเวบไซท์เป็นหัวข้อที่ไม่อาจมองข้ามได้เช่นกันโดยเฉพาะโปรเจคท์ที่มีการระดมทุนในตัวเลขสูงๆ ความเป็นระเบียบเรียบร้อยและความสวยงามของเอกสารอย่างเช่น White Paper รวมถึง Web Site ก็สามารถสะท้อนได้แล้วว่าทีมบริหารมีความเป็นมืออาชีพและใส่ใจเพียงใด
Advisor หรือที่ปรึกษาส่วนมากแล้วผู้ออก ICO มักจะต้องหาที่ปรึกษาที่มีชื่อเสียงทั้งในแวดวงอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับโปรเจคท์รวมถึง Celeb ทางด้าน Blockchain มาช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับโปรเจคท์ ถ้าหากที่ปรึกษาพอที่จะมีชื่อเสียงในระดับโลกหรือระดับภูมิภาค การระดมทุนก็จะได้รับความสนใจมากขึ้น
ไทม์ไลน์ของโปรเจคท์การระดมทุน ICO มีความคล้ายกับการลงทุนในตลาดหุ้นคือนักลงทุนเองก็ไม่ต้องการที่จะเสียเวลารอคอยผลตอบแทนที่นานเกินไป เราจึงต้องดูที่ไทม์ไลน์ของโปรเจคท์ว่าหลังจากที่ได้รับการระดมเงินทุนไปแล้ว ทีมงานเจ้าของโปรเจคท์จะพัฒนาผลิตภัณฑ์เสร็จเมื่อไร เหรียญจะเข้าลิสต์ใน Exchange ตามเวลาที่ได้ระบุไว้หรือไม่ หากโปรเจคท์ถูกเลื่อนออกไปเรื่อยๆจะแสดงถึงความไม่พร้อมของทีมงาน
White Paper อาจจะมีความยาวหลายหน้าแต่นักลงทุนควรต้องให้ความสำคัญกับการอ่านข้อมูลโดยละเอียด เพราะเงินลงทุนของเราแม้จะไม่มากแต่ก็ต้องดูแลรักษา ไม่ควรเสียไปกับโปรเจคท์ที่ไม่ประสบความสำเร็จ