Visa ผู้ให้บริการชำระเงินผ่านบัตรชั้นนำของโลกเพิ่งจะได้กลายเป็นเครือข่ายชำระเงินแรกสุดที่เปิดให้มีการทำธุรกรรมทางการเงินผ่าน USD Coin (USDC) ซึ่งเป็น stablecoin ที่ตรึงมูลค่ากับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยเป็นการทำธุรกรรมบนบล็อกเชน Ethereum
เบื้องต้น ทางVisaได้เปิดลองใช้งานบนCrypto.com หนึ่งแพล็ตฟอร์มซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดของโลก ทดสอบนำร่องก่อน โดยรายงานระบุว่า Crypto.com จะไม่ใช่พาร์ทเนอร์รายแรกและรายสุดท้าย เนื่องจาก Visa มีแผนที่จะขยายการชำระเงินด้วย USDC ออกไปในแพล็ตฟอร์มอื่นๆ ที่เป็นพันธมิตรในไม่ช้านี้
ตั้งแต่ปีที่แล้ว Visa ได้เดินหน้าพัฒนาแนวทางที่จะทำธุรกรรมด้วยเงินดิจิทัลมาโดยตลอด จนสามารถเปิดโครงการนำร่องให้ Crypto.com สามารถส่งผ่าน USDC มายัง Visa เพื่อที่จะใช้ในการชำระเงินตามข้อกำหนดสำหรับบัตรCrypto.com Visa card ซึ่งเป็นความร่วมมือกับ Anchorage พันธมิตรการชำระเงินสกุลเงินดิจิทัล แต่เพียงผู้เดียวของ Visa
ในขั้นตอนการชำระบัญชีโดยทั่วไป ลูกค้าจะต้องชำระเงินในสกุลเงินดั้งเดิม ซึ่งขั้นตอนนี้อาจมีค่าใช้จ่ายสูงและยุ่งยากสำหรับธุรกิจที่สร้างด้วยสกุลเงินดิจิทัล แต่เป็นเรื่องน่ายินดีที่ความสามารถในการชำระเงินใน USDC ทำให้ บริษัทคริปโตท้องถิ่น เช่น Crypto.com เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ไม่ต้องใช้คำสั่งแบบดั้งเดิมในขั้นตอนการบริหารเงินและการชำระบัญชี
ท่ามกลางแนวโน้มที่สกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง หรือ CBDC ปรากฎขึ้นในอนาคต การอัพเกรดคลังของ Visa และการผสานรวมกับ Anchorage ทำให้ Visa สามารถให้การสนับสนุนโดยตรงกับสกุลเงินเหล่านี้ได้
Jack Forestell รองประธานบริหารและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ Visa กล่าวว่า บรรดาฟินเทคด้านคริปโตต่างต้องการพาร์ทเนอร์ที่เข้าใจในแนวทางธุรกิจของตน รวมถึงเข้าถึงความซับซ้อนที่เป็นปัจจัยก่อร่างสร้างสกุลเงินดิจิทัล
“ การประกาศในวันนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในความสามารถของเราในการตอบสนองความต้องการของฟินเทคที่จัดการธุรกิจของพวกเขาด้วยสกุลเงินที่มีเสถียรภาพหรือสกุลเงินดิจิทัล และนี่เป็นส่วนเสริมของสิ่งที่เราทำทุกวัน นั่นคือการอำนวยความสะดวกในการชำระเงินในสกุลเงินต่างๆทั่วโลกอย่างปลอดภัย”
Kris Marszalek ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของ Crypto.com กล่าวว่า:
“ เราได้เห็นการเติบโตอย่างรวดเร็วในธุรกิจของเราและระบบนิเวศของคริปโตที่กว้างขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมา เพื่อเร่งการเปลี่ยนแปลงของโลกไปสู่สกุลเงินดิจิทัลให้เดินหน้าต่อไป เราต้องการพันธมิตรที่เข้าใจโอกาสและเครื่องมือที่จะช่วยให้เราเข้าสู่ตลาดได้เร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งการเป็นพันธมิตรของ Visa มาหลายปี ทำให้เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะยกระดับกระชับความสัมพันธ์ดังกล่าวผ่านข้อตกลงระดับโลกข และทำให้เราเป็นผู้บุกเบิกการชำระเงิน Stablecoin แห่งแรกของโลกที่น่าตื่นเต้น”
ขณะที่ Diogo Mónica ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานบริษัท Anchorage ระบุว่า:
“ แพลตฟอร์มของ Anchorage ถูกสร้างขึ้นโดยมีจุดประสงค์เพื่อให้สถาบันต่างๆ อย่าง Visa ในการสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ในสกุลเงินดิจิทัล เราอยู่ร่วมกับ Visa ในทุกขั้นตอนตั้งแต่ปี 2019 และรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นการชำระเงิน Stablecoin แรกเหล่านี้เกิดขึ้นจริงผ่าน Anchorage APIs”