VISA ผู้ให้บริการชำระเงินผ่านบัตรชั้นนำระดับโลกเผยกำลังพิจารณาที่จะให้การสนับสนุนคริปโตเคอร์เรนซีบางตัวโดยตรงโดยเฉพาะ
ทั้งนี้ VISA ไม่ได้ถือว่าเป็นหน้าใหม่ในอุตสาหกรรมดิจิทัลอีกต่อไป เห็นได้จากการเข้าไปเป็นพันธมิตรกับบริษัทด้านคริปโตชั้นนำหลายแห่ง เช่น Crypto.com รวมถึงมอบสถานะสมาชิกหลักให้กับ Coinbase ซึ่งเปิดทางให้มีการแลกเปลี่ยนคริปโตผ่านบัตรเดบิตโดนตรงของลูกค้าของ VISA
ล่าสุด VISA กำลังก้าวเข้าไปอีกขั้น โดย Alfred Kelly ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของ VISA เปิดเผยว่า บริษัทอาจจะให้การสนับสนุนการทำธุรกรรมคริปโตเคอร์เรนซีโดยตรงในเร็วๆ นี้
ความเห็นข้างต้นมีขึ้นระหว่างงานแถลงข่าวผลประกอบการรายไตรมาสของ VISA ประจำไตรมาสที่ 1 ปี 2020 โดย Kelly สรุปจุดยืนของ VISA เกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลและสินทรัพย์ดิจิทัลโดยทั่วไปในพื้นที่การชำระเงินที่เปลี่ยนแปลงนี้ว่าทางบริษัทตั้งใจที่จะวางตำแหน่งของตัวเองเพื่อให้สกุลเงินดิจิทัลเป็นมิตรกับผู้ใช้มากขึ้น ปลอดภัยเชื่อถือได้มากขึ้น และมีโครงสร้างสอดรับกับบริการชำระเงินในอนาคต
“ ในพื้นที่นี้ เราเห็นวิธีที่เราสามารถเพิ่มมูลค่าที่แตกต่างให้กับระบบนิเวศ และเราก็เชื่อว่า เราอยู่ในตำแหน่งที่ไม่เหมือนใครในการช่วยให้สกุลเงินดิจิทัลมีความปลอดภัย เป็นประโยชน์ และเหมาะสมกับการบริการชำระเงินที่มีอยู่ทั่วโลก ผ่านหุ้นส่วนพันธมิตร และแบรนด์ที่เชื่อถือได้ของเรา” Kelly กล่าว
VISA ยังได้ใช้โอกาสนี้ เปิดเผยว่า ทางบริษัทกำลังให้ความสำคัญและสนใจกับสินทรัพย์ดิจิทัลอยู่สองตัว อันดับแรกคือ คริปโตเคอร์เรนซีอย่าง บิทคอยน์ ซึ่งบริษัทตั้งใจที่จะเดินหน้าทำงานกับบรรดาผู้นำและหุ้นส่วนชั้นนำในอุตสาหกรรมเพื่ออำนวยความสะดวกในการแปลงคริปโตเป็นสกุลเงินหลักที่มีอยู่ท้องตลาดได้อย่างราบรื่น ทั้งยังช่วยถอนเงินออกจากสินทรัพย์คริปโตเพื่อนำไปใช้ในหมู่ผู้ค้าขายมากกว่า 70 ล้านคนทั่วโลก ส่วนสินทรัพย์ดิจิทัลตัวที่สองคือ สกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับการสนับสนุนโดยสกุลเงินหลัก ซึ่งรวมถึงเหรียญstablecoins และสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC)
ซีอีโอ VISA กล่าวสรุปว่า นวัตกรรมการชำระเงินที่เกิดขึ้นมาใหม่เหล่านี้ ล้วนมีศักยภาพเพียงพอที่จะใช้งานในด้านการค้าทั่้่วโลกเหมือนกับสกุลเงินอื่นๆ ทั่วไป
“เราคิดว่าสกุลเงินดิจิทัลที่ทำงานบนบล็อกเชนสาธารณะเป็นเครือข่ายเพิ่มเติมเช่นเดียวกับเครือข่าย RTP หรือ ACH ดังนั้นเราจึงเห็นว่าสกุลเงินเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายของกลยุทธ์เครือข่ายของเรา ซึ่งในทั้งสองกลุ่มนี้ เราเป็นผู้นำที่ชัดเจนที่สุด” Kelly กล่าว