Uniswap ตามกระแสฟื้นของ DeFi หนุนราคาพลิกฟื้นกลับมาโตอีกครั้งในรอบสัปดาห์ที่ถึง 75%
ความเคลื่อนไหวของ Uniswap ในครั้งนี้มีขึ้นหลังจาก DeFi Sector เงียบเหงามานาน จนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่ DeFi token หลักๆ อย่าง Aave (AAVE) และ Chainlink (LINK)มีการขยายตัวเติบโตเหนือความคาดหมาย
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ รายงานข่าวเกี่ยวกับ DeFi ยอดนิยมอย่าง Uniswap, Yearn.Finance, Sushiswap, Yam.Finance และอื่น ๆ ปรากฏให้เห็นอยู่บ่อยครั้งในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา ทว่า กลับเป็นข่าวดีในระยะสั้นๆ เท่านั้น และโทเคนเหล่านี้ส่วนใหญ่ก็กลับมานิ่งเฉยในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี
อย่างไรก็ตาม CoinMarketCap รายงานว่า Uniswap ได้สร้างปรากฎการณ์สวนทางกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยราคาของ Uniswap ปรับตัวเพิ่มขึ้น 75% แตะระดับสูงสุดรอบใหม่ที่ 15.50 ดอลลาร์สหรัฐ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (28 ม.ค.) นับเป็นการเพิ่มขึ้นที่สูงที่สุดเหนือความคาดหมายในรอบสัปดาห์
รายงานระบุว่า โทเคน UNI กำลังจะโค่นสถิติราคาสูงสุดก่อนหน้าที่เคยทำไว้เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา เมื่อราคาของโทเคนดังกล่าวปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าในวันที่ 12 ม.ค. นับเป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งอาจจะเป็นกลายเป็นอีกหนึ่งซีซั่นที่ดีที่สุดสำหรับโทเคน DeFi ในปีนี้
จากภาพในตารางข้างบน แสดงให้เห็นว่า Uniswap มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ในลำดับที่สองของตารางการจัดอันดับ Top DeFi Rankings แซงหน้าโทเคนยอดนิยมอย่าง AAVE จนทำให้ Uniswap ขึ้นมาอยู่ในลำดับที่สองเป็นรองเพียงแค่ LINK เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม แม้การขยายตัวโตของ UNI จะไม่ได้เป็นหลักฐานยืนยันเพียงพอที่จะพิสูจน์ว่า DeFi กำลังกลับมาอย่างเต็มรูปแบบ แต่โทเค็น DeFi ก็ได้รับการสนับสนุนอย่างมากในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากราคาบิทคอยน์ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องหลังทำสถิติสูงสุดหลายระลอกติดต่อกันหลายสัปดาห์
ขณะที่ในส่วนของ DeFi ในฐานะ โปรเจ็กต์ ก็ยังคงมุ่งผลักดันรูปแบบรางวัลใหม่ๆ รวมถึงการเดินหน้าปรับปรุงแพล็ตฟอร์มระบบเพิ่มเติมเพื่อให้ชุมชนมีส่วนร่วมได้ดียิ่งขึ้น ภายใต้คำมั่นของการกำกับดูแลอย่างดี
Ryan Watkins นักวิจัยแห่ง Messari Crypto แสดงความเห็นว่า Uniswap ดูจะมีข้อไพ่ตายอยู่ในมือถึง 2 ใบ คือ 1)ยังคงเห็นการไหลเข้าของผู้เข้าใหม่และ 2) ยังสามารถรักษาผู้ใช้ปัจจุบันไว้ได้ เพราะ Uniswap ไม่ดึงค่าธรรมเนียมออกจากแหล่งรวมสภาพคล่อง ซึ่งต่างจากคู่แข่ง โดยย้ายออกจากมูลค่าคงค้าง และกระจายเงินฟันผลให้กับผู้ใช้แทน
Watkins ยังกล่าวผ่านทวิตเตอร์อีกว่า ความหมกมุ่นในเงินปันผลของอุตสาหกรรมนี้ถือเป็นฟันเฟืองที่ค่อนข้างไร้ประโยชน์กับโทเคนมาตั้งแต่ปี 2017 แต่ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้โทเคนมีศักยภาพในการฐานะตัวสะสมมูลค่า ก่อนเตือนทิ้งท้ายว่า ความสามารถในการหารายได้เข้ามาแตกต่างจากความสามารถในการปันผล