Tezos Foundation แถลงรายงานการประชุมครึ่งปีครั้งที่ 2 แจกแจงรายละเอียดความก้าวหน้าขององค์กรในไตรมาสที่ 3 และ 4 ของปี 2019 ตีพิมพ์เมื่อวันที่ 19 มีนาคม โดยรายงานเปิดเผยว่าองค์กรมีทรัพย์สิน 635 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 300% เมื่อเทียบกับเงินทุนตั้งต้น 232 ล้านดอลลาร์ ที่ได้มาจากการเปิดขาย ICO
เมื่อถูกถามว่าอะไรเป็นปัจจัยที่องค์กรประสบความสำเร็จและทำให้มีเงินทุนเพิ่มขึ้นถึงสามเท่า นาย Roman Schnider CFO ของ บริษัท ให้สัมภาษณ์ต่อ Cointelegraph ว่าโครงการได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงของตลาดคริปโตฯในเชิงบวก
“การเพิ่มขึ้นส่วนมากเกิดจากการเพิ่มขึ้นของราคาสินทรัพย์ที่อยู่บนบล็อกเชนในช่วงสามปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะ BTC และ XTZ”
รายงานเน้นไปยังรายละเอียดของการใช้เงินสนับสนุนกองทุน เผยว่าทาง Tezors Foundation ได้ทุ่มเงินสนับสนุนกว่า 37.6 ล้านดอลลาร์ให้แก่การพัฒนา Ecosystem ของ Tezos (XTZ) นับตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปี 2019
เงินทุนสนับสนุนแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ประกอบไปด้วย ทุนสำหรับการสนับสนุนในการวิจัยและพัฒนา ทุนสำหรับโครงการระบบ Ecosystem และทุนสำหรับการสนับสนุนคอมมูนิตี้ โดยผู้สมัครขอรับเงินทุนจะต้องผ่านขั้นตอนที่ซับซ้อนทั้งหมด 4 ขั้นตอน จากนั้นข้อเสนอจะถูกประเมินโดยคณะกรรมการ และต้องผ่านการตรวจสอบอย่างถี่ถ้วน ขั้นตอนดังกล่าวจะถูกดำเนินการทั้งหมดภายใน Tezos Foundation ซึ่งที่ผ่านมา มีโครงการได้รับการอนุมัติไปแล้ว 78 รายจากผู้ยื่นขอกว่า 200 ราย
ผู้ได้รับทุนที่โดดเด่นในช่วงปลายปี 2019
แม้ว่าองค์กรจะไม่เปิดเผยจำนวนเงินทุนที่มอบให้กับแต่ละโครงการ รายงานระบุว่า การมอบเงินขึ้นอยู่กับความสำเร็จของแต่ละโครงการ
โดยขณะนี้ ทุนส่วนใหญ่จะมุ่งเน้นไปยังการพัฒนาภาษาที่ใช้ในการเขียน Smart Contract ของ Tezos องค์กรต่าง ๆ เช่น Blockmatic, Buidl Labs, Marigold Project รวมไปถึงมหาวิทยาลัยเกียวโต ล้วนได้รับเงินทุนเพื่อใช้ในการการพัฒนาภาษาสำหรับเขียน Smart Contract ทั้งสิ้น ส่วนทุนอื่น ๆ มอบให้แก่ Cryptium Labs DaiLambda และ Nomadic Labs สำหรับงานของพวกเขาในการพัฒนา Core Software ของ Tezos ทั้งด้าน Staking ความเป็นส่วนตัว และการปรับปรุงประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้น
และยังมีองค์กรมากกว่า 40 แห่งที่ได้รับเงินทุนสำหรับการพัฒนาเครื่องมือและแอพพลิเคชันเกี่ยวกับระบบ Ecosystem ซึ่งรวมถึงการใช้งานที่หลากหลายของ Tezos block explorer และเครื่องมือการทำ Staking อีกด้วย
นอกจากนี้ เงินทุนยังถูกมอบให้แก่ Tezsure แพลตฟอร์มประกันภัยที่ถูกสร้างขึ้นบน Tezos และ camlCase บริษัทพัฒนา DeFi
ชุมชนของ Tezos ทั่วโลกก็ได้รับเงินสนับสนุนกว่า 13 ล้านเหรียญ โดยชุมชนส่วนใหญ่นั้นต่างมีส่วนร่วมในการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับโครงการผ่านการมีตติ้งและอีเวนท์ต่าง ๆ รวมไปถึงการจัดทำข้อมูลเพื่อให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับระบบของ Tezos อีกด้วย
Tezos มีเงินทุนสำรองจำนวนมาก
ตัวขับเคลื่อนหนึ่งที่ที่ทำให้ Tezos ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากคือการมีเงินทุนขององค์กรเพื่อนำมาใช้ในการพัฒนาโปรเจกต์ต่าง ๆ
ในทางกลับ ทุนเพื่อการพัฒนาของ Ethereum Foundation (EF) ในปัจจุบันมีมูลค่าเพียง 85 ล้านดอลลาร์ ที่อยู่ในรูปแบบของเหรียญ ETH เท่านั้น แม้ว่าทาง Ethereum Foundation จะรายงานว่ามีเงินสดสำรอง แต่อาจไม่เพียงพ่อต่อการให้ทุนเพื่อพัฒนาระบบเมื่อมองจากการให้ทุนครั้งล่าสุดจำนวนถึง 30 ล้านดอลลาร์ ในขณะที่ Tezos สามารถจัดหาทุนให้โครงการพัฒนาต่าง ๆ ต่อไปในอัตราที่ใกล้เคียงกันเป็นเวลาอย่างน้อย 7 ปีเลยทีเดียว
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง: Shell สร้างโรงไฟฟ้าเสมือน ใช้บล็อกเชนเพื่อช่วยในการจัดเก็บพลังงาน
