มีการเคลื่อนย้าย Bitcoin จำนวนถึง 69,370 BTC จากกระเป๋าสตางค์ซึ่งคาดว่าเกี่ยวข้องกับเว็บตลาดมืด Silk Road ไปยังกระเป๋าสตางค์ใบใหม่ ถือเป็นการเคลื่อนย้าย Bitcoin จำนวนมากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์
บิทคอยน์ (BTC) นั้นขึ้นชื่อในเรื่องของความโปร่งใสและปริมาณที่มีอยู่อย่างจำกัด นั่นจึงทำให้เราสามารถสืบหาได้ว่าใครมีบิทคอยน์อยู่เท่าไหร่ และคิดเป็นสัดส่วนกี่เปอร์เซนต์ของเหรียญที่มีอยู่ทั้งหมด
ปี 2020 นี้แม้ตลาดคริปโตจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและมีผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ออกมามากมาย แต่เว็บเทรดหรือ Exchange อย่างน้อย 75 แห่งทั่วโลกต้องเลิกกิจการไปจากเหตุผลหลาย ๆ อย่าง
ผู้รับผิดชอบคดี Mt Gox มีแผนจะชดเชยบิทคอยน์จำนวน 140,000 BTC ให้แก่นักลงทุนในวันที่ 15 ตุลาคมนี้หลังถูกเลื่อนมาแล้วถึงสี่รอบ
โปรเจกต์บล็อกเชนเกมมิ่ง Eminence (EMN) ที่กำลังถูกพัฒนาโดยผู้สร้าง YFI ต้องพบกับดราม่าหลังนักลงทุนแห่ฝากเงินเข้าไปในโปรโตคอล EMN ที่ยังไม่เสร็จสิ้นดีจนทำให้ถูกแฮกเกอร์ขโมยเงินทั้งหมดไป
แม้มีกระแสความกังวลจากการที่เว็บเทรด KuCoin ถูกแฮกและสัญญา Options ของบิทคอยน์มูลค่ากว่า 1 พันล้านดอลลาร์บน Deribit ที่หมดสัญญาไปเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา แต่ราคาของบิทคอยน์ยังคงนิ่ง
กระเป๋าสตางค์บิทคอยน์ (Bitcoin Wallet) ที่มี บิทคอยน์ บรรจุอยู่กว่า 69,370 BTC หรือประมาณ 2.3 หมื่นล้านบาทกำลังถูกแฮกเกอร์จากทั่วโลกรุมเจาะระบบเพื่อจะได้ขุมทรัพย์หมื่นล้านนี้ไปครอบครอง
กระดานเทรดสกุลเงินดิจิตอลบนเว็บเทรดสกุลเงินดิจิทัลชื่อดังอย่าง OKEx และ Bitfinex โดนโจมตีระบบหลายครั้งจนสร้างความเสียหายเป็นอย่างมาก และยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดว่าการโจมตีดังกล่าวเป็นฝีมือของใครและเหตุการณ์ทั้งสองมีความเกี่ยวข้องกันหรือไม่