รายงานจากหนังสือพิมพ์นิคเคอิ ระบุว่าธนาคารซูมิโตโมะหรือ SMFG ซึ่งเป็นธนาคารใหญ่อันดับสองของญี่ปุ่นได้ตกลงสร้างความร่วมมือกับกลุ่ม SBI Holdings อีกหนึ่งสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ในการพัฒนาดิจิทัลแบงก์กิ้งบนสมาร์ทโฟน
เมื่อเดือนมิถุนายนของปี 2019 ทาง SMFG ได้เข้าถือหุ้น 20% ในบริษัทลูกของ SBI Holdings ชื่อ NeoMobile Securities ด้วยมูลค่ากว่าพันล้านเยน และภายในสิ้นปีนี้ SBI จะได้รับเงินลงทุนจาก SMFG กว่า 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ที่จะเข้าไปลงทุนในการพัฒนาเทคโนโลยีแห่งอนาคตอย่างฟินเทค บล็อกเชน และ 5G
แม้จะไม่มีการเปิดเผยออกมาว่าความร่วมมือด้านดิจิทัลแบงก์กิ้งดังกล่าวจะรวมถึงสกุลเงินดิจิทัลด้วยหรือไม่ แต่สำหรับ SBI Holdings นั้นถือได้ว่าเป็นสถาบันการเงินที่จริงจังกับคริปโตเป็นอย่างมาก
โดย SBI Holding นั้นทำงานอย่างใกล้ชิดกับ Ripple ซึ่งเป็นผู้พัฒนาเหรียญ XRP เพื่อใช้ในการโอนเงินระหว่างประเทศ โดยนาย Yoshitaka Kitao ซีอีโอของ SBI Holding ยังควบตำแหร่งเป็นกรรมการบริหารของ Ripple อีกด้วย รวมถึงมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับ Craight Wright ผู้พัฒนาเหรียญ BSV ผู้อ้างตัวเองว่าเป็น Satoshi Nakamoto อันโด่งดัง
SBI ยังเคยพิจารณาที่จะจ่ายปันผลให้ผู้ถือหุ้นด้วยเหรียญ XRP รวมถึงเพิ่งเปิดหน่วยธุรกิจใหม่นั่นคืออุปกรณ์การขุดเงินดิจิทัลหรือ Mining Chip ในปีที่ผ่านมา
ปัจจุบันสภาผู้แทนราษฎรของญี่ปุ่นได้ผ่านกฎหมายที่กำกับดูแลธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเงินดิจิทัลออกมาเป็นที่เรียบร้อยโดยจะมีผลอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 พฤษภาคมนี้ ส่งผลให้ภาพรวมทางข้อกำกับและกฎหมายเกี่ยวกับเงินคริปโตฯของญี่ปุ่นชัดเจนและเป็นมิตรมากขึ้น
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง : SBI เพิ่มสัดส่วนในเหมืองขุด BSV กว่าสามเท่าหลังการ Halving