บล็อกเชน สามารถนำมาใช้งานได้ในหลากหลายอุตสาหกรรม โดยมีจุดขายที่ความโปร่งใสสามารถตรวจสอบได้ เครื่องมือหนึ่งที่ทำให้การทำงานบนบล็อกเชนมีประสิทธิภาพนั่นคือสัญญาอัจฉะริยะ หรือ Smart Contact ซึ่งเปิดโอกาสให้ใครก็ได้สามารถเขียนโปรแกรมลงบนบล็อกเชนหรือที่เรียกว่า Open Source เพื่อใช้งานตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการ
Smart Contact ยังถูกนำมาใช้ในการระดมทุนด้วยวิธี ICO โดยผู้ที่ถือโทเคนสามารถทำธุรกรรมต่างๆบนแพลตฟอร์มที่ผู้ออก ICO สร้างขึ้นได้ด้วยสัญญาอัจฉริยะนี่เอง ส่วนมากแล้วเงินดิจิตอลที่นำมาสร้าง Smart Contact คือเหรียญ Ethereum (ETH) ภายใต้รหัส ERC-20
ใครก็ตามที่ต้องการจะสร้างสกุลเงินดิจิตอลหรือโทเคนของตัวเองสามารถเขียนขึ้นมาได้ผ่าน Smart Contact จากนั้นสามารถนำไปแจกจ่ายให้กับผู้ที่ระดมทุนผ่านโปรเจกต์ ICO หรือแจกฟรีให้กับผู้ที่เข้าร่วมโครงการของเรา ผู้ถือโทเคนสามารถนำไปใช้งาน แลกกับบริการหรือรับสิทธิพิเศษต่างๆได้ตามที่เจ้าของโปรเจคท์เป็นผู้สร้างขึ้น
ยกตัวอย่างเช่น โปรเจคท์ A ต้องการระดมทุนไปพัฒนาแพลตฟอร์มการเทรดเงินดิจิตอล ได้สร้างโทเคน AA ขึ้น โดยระบุในสัญญาว่าผู้ที่ระดมทุนในโปรเจคท์จะได้รับสิทธิในการเทรดบิทคอยน์ได้ฟรีโดยไม่คิดค่าธรรมเนียม โดยสามารถใช้สิทธินี้ได้ผ่าน Smart Contact
อย่างไรก็ตาม ได้มีเงินดิจิตอลสกุลอื่นที่พยายามขึ้นมาแข่งขันกับ Ethereum ในการสร้างฟีเจอร์ Smart Contact อย่างเช่น Stellar Cardano หรือ Neo ซึ่งเป็นเหรียญสัญชาติจีน
จุดเด่นของ Smart Contact คือข้อมูลการทำธุรกรรมต่างต่างๆที่เกิดขึ้นจะถูกเก็บบันทึกไว้ในรูปแบบกระจายศูนย์ ไม่มีใครที่จะสามารถบิดเบือนข้อมูลที่เกิดขึ้นได้ ทำให้มีความโปร่งใส รวมถึงความรวดเร็วในการทำธุรกรรม สามารถรองรับข้อมูลจำนวนมหาศาลได้
บางอุตสาหกรรมหรือธุรกิจ จึงเริ่มนำบล็อกเชนมาใช้ เช่นในภาคการขนส่งโลจิสติกส์ ได้มีการนำ Smart Contact มาใช้ในการติดตามตรวจสอบสินค้ารายชิ้น เพื่อพิสูจน์ว่าสินค้าเป็นของปลอมหรือไม่ โดยวิธีการคือเมื่อผลิตสินค้าขึ้นมาจะต้องทำการติดตั้งอุปกรณ์ติดตามที่ระบุรหัสสินค้า เมื่อนำเข้าสู่บล็อกเชนก็จะสามารถ Track ติดตามสินค้านั้นๆได้
ตัวอย่างเช่น : New Balance จับมือ IOHK ใช้บล็อกเชน Cardano ตรวจจับสินค้าปลอม
นอกจากนี้ยังใช้ Smart Contact ในการยืนยันตัวตนและการทำธุรกรรมระหว่างกันได้ เช่น การชำระค่าสินค้า ที่ผ่านมาเราจำเป็นต้องมีคนกลางเข้ามาจัดการดูแลยืนยันการทำธุรกรรม แต่หากใช้ Smart Contact บนบล็อกเชน เราสามารถยืนยันธุรกรรมกันเองได้โดยไม่ต้องมีคนกลาง
ตัวอย่างเช่น การเจรจาซื้อขายวัตถุโบราณ ฝั่งซื้อเมื่อโอนโทเคนเข้ามายัง Smart Contact แล้ว ฝั่งขายจะทำการตรวจสอบเพื่อยืนยันว่าได้โทเคนครบตามที่ต้องการหรือไม่ เมื่อยืนยันเรียบร้อย ฝั่งขายจะส่งรหัสยืนยันให้ฝั่งซื้อไปรับของตามจุดรับที่ระบุไว้ได้เลย
สรุปคือ Smart Contact คือเครื่องมือที่เข้ามาเสริมการทำงานของบล็อกเชนให้มีความหลากหลาย นำไปปรับใช้ได้ในทุกอุตสาหกรรมแล้วแต่ผู้พัฒนาจะเขียนโปรแกรมขึ้น โดยมีจุดเด่นคือการตัดคนกลางออก ทำให้การทำธุรกรรมมีความรวดเร็ว โปร่งใสตรวจสอบได้และรองรับข้อมูลจำนวนมหาศาลได้ เราจะได้เห็นธุรกิจยุคใหม่นำ Smart Contact มาใช้งานมากขึ้นในอนาคต