- สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกาได้เตือน Coinbase ว่าจะฟ้องแพลตฟอร์มการแลกเปลี่ยนคริปโตเคอร์เรนซีแห่งนี้หากเปิดตัวผลิตภัณฑ์กู้ยืมสินทรัพย์ดิจิทัลใหม่
- แต่การเคลื่อนไหวของ SEC อาจส่งผลเสียต่อการผลักดันให้แพลตฟอร์มการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิตอลออกนอกสหรัฐฯ ทั้งยังไม่ชัดเจนว่าเป้าหมายสูงสุดของSECคืออะไร
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐได้ขู่ว่าจะฟ้องบริษัทแลกเปลี่ยนคริปโตเคอเรนซี (cryptocurrency) ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อย่าง Coinbase Global (-0.69%) หากบริษัทดังกล่าวดำเนินการเสนอผลตอบแทนจากการปล่อยสินเชื่อคริปโต ซึ่งเป็นวิธีปฏิบัติที่มักเกิดขึ้นกับบริษัทรายใหญ่อื่นๆในตลาดหลักทรัพย์
ทั้งนี้ สัปดาห์ที่ผ่านมา SEC ได้ออกมาเตือนว่าผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Coinbase ที่เรียกว่า “Lend” ซึ่งจะจ่ายดอกเบี้ยให้กับคริปโตเคอร์เรนซีของผู้ฝากเงิน เป็นการดำเนินการที่ละเมิดฝ่าฝืนกฎหมายความปลอดภัยที่มีอยู่สำหรับบริษัทที่ไม่ได้มีการจดทะเบียนในตลาด
นักวิเคราะห์บางรายมองว่า SEC ได้ทำการเตือน Coinbase ด้วยการส่งสัญญาณว่ามีนายประธานคนใหม่เข้ามา ทว่ากลวิธีที่ใช้โดย Gary Gensler ประธาน SEC คนปัจจุบันนั้นดูคล้ายกับ Jay Clayton ประธานคนก่อนอย่างน่าเจ็บปวดใจ
Clayton ผู้ดำรงตำแหน่งประธาน SEC ในยุคประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัปม์นั้นชื่นชอบความคลุมเครือทางยุทธวิธี โดยมักจะใช้การดำเนินการบังคับใช้กฎระเบียบทีละน้อยเพื่อต่อต้านการเริ่มต้นแนะนำเหรียญเข้าสู่ตลาด ในขณะที่ปล่อยให้คริปโตเคอร์เรนซีอย่าง Bitcoin และ Ether ลุยด้วยอุปกรณ์ของตนเอง
อย่างไรก็ตาม SEC ภายใต้การนำของ Gensler ได้ก้าวไปอีกขั้นหนึ่ง โดยใช้อำนาจของตนอย่างจริงจัง แม้กระทั่งการใช้เอกสารหมายศาลและข้อมูลอื่น ๆ จาก Coinbase Global ก่อนหน้าที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่อาจถูกกล่าวหาว่าละเมิดกฎหมายหลักทรัพย์ที่มีอยู่
การสไตร์คชนิด “มัดมือชก” เช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยตามปกติ SEC จะรอให้บริษัทต่างๆ เริ่มขายการลงทุนออกมาก่อนที่จะประกาศมาตรการคว่ำบาตร หรือออกคำสั่งระงับ และกำหนดให้บริษัทต่างๆ ต้องจ่ายเงินชดเชยนักลงทุน
กระนั้น สิ่งที่น่าวิตกยิ่งกว่าก็คือ ปัจจัยคุกคามจากการฟ้องร้องของ SECอาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อนวัตกรรมในตลาดสกุลเงินดิจิทัลที่กำลังเติบโตของสหรัฐอเมริกาได้
ความเคลื่อนไหวข้างต้น ส่งผลให้ Gensler ผู้ทำหน้าที่สอนเทคโนโลยีคริปโตเคอร์เรนซีและบล็อกเชน ที่มหาวิทยาลัย MIT ด้านการบริหารจัดการ (Sloan School of Management) ก่อนที่จะรับตำแหน่งที่ประธาน SEC ได้รับการเย้ยหยันจากชุมชนคริปโตเคอร์เรนซี
ในที่สุด หลายคนคิดว่าเป็นผู้กำกับดูแลกฎระเบียบที่เข้าใจและเข้าถึงตลาดอย่างแท้จริง
แต่การมองโลกในแง่ดีที่ Gensler จะนำพร้อมคลื่นลูกใหม่ของนวัตกรรม ขณะที่การยอมรับคริปโตเคอร์เรนซีในตลาดการเงินได้ทั้งหมด ซึ่งถูกกล่าวในสุนทรพจน์ก่อนหน้าซ้ำๆ ของเจ้าตัวว่า ว่าอุตสาหกรรมนี้เป็น “ป่าตะวันตกของระบบการเงินของเรา” และ “ต้องการกฎเกณฑ์ใช้งาน.”จะถูกลบออกไป
ในขณะที่ผู้สนับสนุนคริปโตเคอเรนซีโดยทั่วไปไม่จำเป็นต้องขัดต่อกฎระเบียบ การบังคับใช้ทีละน้อยนั้นไม่ใช่ข้อบังคับ มันเป็นเพียงการเขย่าขวัญและความกลัว mongering และนำอุตสาหกรรมถอยหลัง
และสิ่งสุดท้ายที่หน่วยงานกำกับดูแลควรพยายามทำคือการผลักดันอุตสาหกรรมคริปโตเคอเรนซีให้อยู่ในเงามืด
ทั้งนี้ เมื่อช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา หน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินของสหราชอาณาจักร (FCA) ได้ออกมายอมรับว่าไม่สามารถควบคุมการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลอย่าง Binance ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมหน่วยงานกำกับดูแลจึงควรทำงานร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมากกว่าที่จะต่อต้าน