นายธรรมศักดิ์เศรษฐอุดมผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่–การเงินและการลงทุนเอสซีจี เปิดเผยผลสำเร็จในการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดซื้อจัดจ้าง-วางบิล-ชำระเงิน โดยในช่วงเวลา 1 ปีที่มีการดำเนินการสามารถลดต้นทุนและทำให้การดำเนินงานคล่องตัวเพิ่มมากขึ้น ระบุว่า ในปีที่ผ่านมา SCG สามารถลดระยะเวลาในการดำเนินงานจัดซื้อไปจนถึงการชำระเงินได้ครึ่งหนึ่ง ซึ่งปัจจุบันมีผู้ค้าเข้ามาอยู่ในระบบบล็อกเชนของ SCG ถึง 240 ราย แล้วตั้งเป้าว่าภายในปีหน้าจะสามารถเพิ่มขึ้นเป็น 2,400 รายได้
สำหรับเทคโนโลยีบล็อกเชนที่ SCG นำมาใช้เป็นการสร้างแพลตฟอร์มสำหรับกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างวางบิลและชำระเงิน ซึ่ง SCG เรียกว่า B2B (Blockchain Solutions for Procure-to-pay) ซึ่งที่ผ่านมา SCG จำเป็นต้องใช้พนักงานจำนวนมากและสูญเสียเวลาไปกับการส่งเอกสารและตรวจสอบโดยบุคคลเป็นจำนวนมาก
ดังนั้นการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนเข้ามาใช้จึงทำให้ทั้ง SCG และ ซัพพลายเออร์ สามารถลดได้ทั้งระยะเวลาในการส่งเอกสารการตรวจสอบความถูกต้องของสินค้า และผู้ประกอบการไม่จำเป็นต้องลงทุนเพิ่มเพื่อเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของแพลตฟอร์มที่ SCG พัฒนาขึ้น
สำหรับกลุ่มบริษัทซัพพลายเออร์ของ SCG ที่เข้าร่วมโครงการในช่วงแรกมีเพียง 10 ราย และขยายเพิ่มมากขึ้น ซึ่งแฟลตฟอร์มนี้ SCG เริ่มจากบริษัทที่มีการซื้อขายในระดับหมื่นล้านบาทขึ้นไปหรือบริษัทที่มีการวางบิล 1,600 ใบต่อวัน
หากเปรียบเทียบให้เข้าใจง่าย ก็คือบริษัทที่อยู่ติด 100 อันดับแรกในการซื้อขาย ซึ่งหากบริษัทใดที่มีระบบหลังบ้านของการจัดซื้อจัดจ้าง-วางบิล-ชำระเงินแล้ว ก็สามารถเชื่อมต่อกับเทคโนโลยีบล็อกเชนที่ SCG นำมาใช้ได้ ซึ่งผู้ประกอบการจะสามารถลดต้นทุนในส่วนของตนเองได้เพิ่มมากยิ่งขึ้น