Ruffer บริษัทบริหารจัดการการลงทุน ออกโรงโต้การตัดสินใจเข้าซื้บิทคอยน์มูลค่า 745 ดอลลาร์สหรัฐในเดือนธ.ค. ที่ผ่านมาว่า เป็นการตัดสินใจที่ผ่านการไตร่ตรองมาอย่างดี เพื่อผลตอบแทนสูงสุดของลูกค้า
ท่าทีของ Ruffer ในครั้งนี้ มีขึ้นท่ามกลางการดาหน้าเข้าไปลงทุนในตลาดสกุลเงินดิจิทัลของบรรดานักลงทุนสถาบันชั้นนำรายใหญ่ของโลกหลายแห่ง โดย Ruffer ซึ่งมีสินทรัพย์ในการบริหารจัดการ (AUM)มากกว่า 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้หลายฝ่ายอดกังขาไม่ได้ว่า การจัดสรรเงินทุนกว่า 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ไปลงทุนในบิทคอยน์ในช่วงที่ผ่านมา เหมาะสมดีแล้วหรือไม่
รายงานจาก Decrypt เผยว่า Ruffer ได้ออกมาโรงโต้คำวิพากษ์วิจารณ์ที่เกิดขึ้น โดยย้ำชัดว่า การตัดสินใจซื้อบิทคอยน์มูลค่า 745 ล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นการตัดสินใจที่เหมาะสม โดยย้ำกับนักลงทุนว่า Ruffer ยังคงนำหน้าคู่แข่งด้วยการจัดสรรเงินส่วนน้อยให้กับสินทรัพย์ดิจิทัล
ทั้งนี้ ทางRufferได้จัดสรร 2.5% ของ Multi-Strategies Fund ให้กับบิทคอยน์ รวมถึงมีการถือครองบิทคอยน์บางส่วนผ่าน MicroStrategy และ Galaxy Digital ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นไปเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนซึ่งคุ้นเคยกับการลงทุนในสินทรัพย์แบบดั้งเดิมว่าการลงทุนในบิทคอยน์ของ Ruffer เป็นการตัดสินใจที่พิจารณาถึงความเหมาะสมของช่วงจังหวะเวลาและผ่านการคิดไตร่ตรองอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่สินทรัพย์ดิจิทัลมีผลประกอบการที่น่าเหลือเชื่อในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา
แถลงการณ์ของ Ruffer ระบุว่า ในช่วงเวลาเช่นนี้จำเป็นต้องใช้วิธีการที่ “แหวกจากขนบ” เพื่อปกป้องพอร์ทลงทุนของ Ruffer โดยRufferมองว่า เมื่อบริษัทอื่น ๆ เริ่มเห็นมูลค่าในบิทคอยน์บวกกับปริมาณบิทคอยน์ในตลาดที่มีน้อยลงการแข่งขันเพื่อสะสมสินทรัพย์ดิจิทัลจะทวีความรุนแรงมากขึ้นนับจากนี้
“ นี่เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งการจัดสรรขนาดเล็กให้กับกลุ่มสินทรัพย์เฉพาะที่เราคิดว่านำสิ่งที่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญมาสู่พอร์ตโฟลิโอ และเราคิดว่าเราค่อนข้างตอบสนองได้เร็วสำหรับเรื่องนี้ ที่เป็นสถาบันที่ยมอรับการปรับใช้และการมีสถานะทางการเงินของบิทคอยน์มาอย่างยาวนาน” Ruffer ระบุ
การเข้าซื้อบิทคอยน์ของRuffer มีขึ้นท่ามกลางนักลงทุนสถาบันที่เข้ามาซื้อบิทคอยน์อย่างดูเดือดเช่นกัน โดยก่อนหน้านี้ MicroStrategy ได้เริ่มซื้อบิทคอยน์อย่างดุเดือดในไตรมาสสุดท้ายของปี 2020 จนถึงขั้นประกาศขายตราสารหนี้มูลค่า 650 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อระดมทุนซื้อบิทคอยน์ในรอบที่สาม จนถูก Citigroup ลดอันดับความน่าเชื่อถือจาก ‘เป็นกลาง’ เป็น ‘ขาย’ เมื่อเห็นว่า บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดแนสแด็กแห่งนี้ มุ่งลงทุนในบิทคอยน์มากเกินไป
ขณะเดียวกัน มีข่าวลือว่าผู้บริหารและนักลงทุนของMicroStrategyบางคนไม่เห็นด้วยกับทิศทางของบริษัททีมุ่งไปสู่ตลาดบิทคอยน์ แต่เมื่อพิจารณาว่าราคาบิทคอยน์ได้เพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 42,000 ดอลลาร์สหรัฐในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้อย่างน้อยในตอนนี้ บริษัทก็สามารถยืนหยัดได้อย่างมั่นใจต่อทางเลือกในการลงทุนนี้
SOURCE
