Ripple ผจญวิบากกรรมอีกระลอก เจอฟ้องร้องดำเนินคดีทางกฎหมายจากนักลงทุนรายหนึ่งที่ไม่พอใจเพราะ Ripple ทำขาดทุน 50 ดอลลาร์สหรัฐ
เพียงแค่ช่วงเวลาเดือนกว่าๆ หลังคณะกรรมการกำกับดูแลหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (SEC) ตั้งข้อหายื่นฟ้อง Ripple Inc.บริษัทผู้บริหารดูแลโทเคน XRP ทาง Ripple ก็ตกเป็นจำเลยโดนฟ้องร้องทางกฎหมายอีกครั้ง โดยคราวนี้เป็น Tyler Toomey นักลงทุนรายหนึ่งในฟลอริด้าที่ยื่นฟ้องฐานบริษัทฐานทำเจ้าตัวขาดทุนถึงครึ่งหนึ่งของเงินลงทุน คือ 50 ดอลลาร์สหรัฐฯจากการลงทุน 100 ดอลลาร์สหรัฐ
รายงานระบุว่า Tyler Toomey ได้ยื่นเอกสารฟ้องร้องคดีทางแพ่งต่อบริษัทต่อการขาดทุนเท่าตัวที่เกิดขึ้นในรอบสัปดาห์นี้ โดยเจ้าตัวระบุว่า ได้ซื้อ 135 XRP เมื่อเดือนพ.ย. ที่ผ่านมา โดยเป็นช่วงที่ราคาของ XRP ยังอยู่ในช่วงขาขึ้น แต่ก็โดนบีบให้ต้องขายออกไปในเดือนธ.ค. เพราะข่าวการฟ้องร้อง ทำให้ราคา XRP ดิ่งแรง จน Toomey ขาดทุน 48.50 ดอลลาร์สหรัฐฯ
ทั้งนี้ Toomey กล่าวว่า การฟ้องร้องครั้งนี้ไม่ใช่เพียงเพื่อตัวเองเท่านั้น แต่ทำเพื่อนักลงทุนที่ต้องขาดทุนเพราะการขายหุ้นอย่างผิดกฎหมายของ Ripple ซึ่งส่งผลให้ท้ายที่สุดก็เป็นที่มาของรายได้และกำไรโดยมิชอบด้วยกฎหมายของทางบริษัท
ตามรายงานของ Decrypt ข้อความตอนหนึ่งในเอกสารฟ้องร้องระบุว่า “จำเลย [Ripple] ขายโทเค็น XRP ซึ่งเป็นหลักทรัพย์ภายใต้กฎหมายฟลอริดาหลายล้านดอลลาร์ (หรือมากกว่า) ให้กับนักลงทุนในฟลอริดาโดยเป็นหลักทรัพย์ที่ไม่ได้ลงทะเบียนกับทางการของรัฐบาลกลางหรือฟลอริดา”
นอกจากนี้ ทาง Toomney ยังได้ระบุชื่อ Brad Garlinghouse ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของ Ripple ในฐานะจำเลยของการฟ้องร้องในครั้งนี้ด้วย โดยดำเนินการตามรูปแบบเดียวกันกับที่ทาง SEC ฟ้องร้องบริษัท
จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีความเห็นใดๆ จากทางฝั่งของ Ripple เกี่ยวกับคดีความทางกฎหมายที่เกิดขึ้นล่าสุด แต่เมื่อเทียบกับคดีที่ต้องต่อสู่กับ SEC ซึ่งจะเริ่มต้นในเดือนก.พ. นี้ คดีความครั้งนี้น่าจะรอไปก่อนได้