Ripple เผยบรรลุข้อตกลงและลงนามทำธุรกิจกับลูกค้าหน้าใหม่ถึง 15 ราย แม้จะมีคดีความฟ้องร้องจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (SEC)
หากถามว่าใครคือผู้ชนะเบอร์หนึ่งของตลาดคริปโตประจำปี 2020 เชื่อแน่ว่า ชื่อของ Ripple Inc. และ XRP ไม่น่าจะติดอยู่ในโผแน่นอน เมื่อคำนึงถึงข้อเท็จจริงที่ว่าบริษัทโดนฟ้องจากSEC แถมการตั้งข้อหาฟ้องร้องนี้ยังทำให้พันธมิตรทางธุรกิจ และตลาดแพล็ตฟอร์มแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลหลายแห่งประกาศระงับการทำธุรกิจร่วมกันหรือตัดสายสัมพันธ์ไม่ขอสังฆกรรมข้องเกี่ยว เพราะหวั่นเกรงว่าจะโดนลากไปเกี่ยวการต่อสู้ทางกฎหมายที่กำลังจะเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม มรสุมลูกแล้วลูกเล่า ก็ไม่อาจสร้างผลกระทบทางลบต่อ Ripple เสมอไป เพราะบริษัทยังมีแง่มุมทางบวกและข่าวดีให้ได้ชื่นใจออกมาเช่นกัน โดย Ripple ระบุว่า ปี 2020 ที่ผ่านมา ถือเป็นอีกก้าวย่างสำคัญของบริษัทที่สามารถบรรลุข้อตกลงทางธุรกิจเซ็นสัญญากับลูกค้าหน้าใหม่ถึง 15 ราย แม้ว่าจะมีการตั้งข้อหาฟ้องร้องจากทาง SEC แล้วก็ตาม
นอกจากนี้ บริษัทยังมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ขณะที่ RippleNet ยังมีการขยายตัวเติบโตได้ถึง 5 เท่า พร้อมด้วยปริมาณการทำธุรกรรมสูงสุดทุบสถิติของปีที่ 3 ล้านครั้ง แถม On-Demand Liquidity ของบริษัทยังเติบโตเพิ่มขึ้นในอัตรารายปีถึง 12 เท่า โดยมีธุรกรรมสูงถึง 2,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงเวลาเดียวกัน
Brad Garlinghouse ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของ Ripple กล่าวว่า ท่ามกลางคดีความทางกฎหมาย บริษัทรู้สึกซาบซึ้งและขอบคุณทุกแรงสนับสนุนจากทั้งช่องทางสาธารณะและจากข้อความที่เข้ามาพูดคุยโดยตรงกับบอร์ดผู้บริหาร และกำลังใจที่หลั่งไหลมาจาส่วนต่างๆของชุมชนทั่วโลก รวมถึงลูกค้า คู่ค้า ผู้ถือหุ้น ผู้เล่นในอุตสาหกรรมและหน่วยงานกำกับดูแลระดับโลก
“ เราสิ้นสุดปีที่แข็งแกร่ง และด้วยทีมบริหารงานใหม่และของ SEC ทางบริษัทคาดหวังว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในทางบวกในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ผมรู้สึกว่ามีความพร้อมและมั่นใจว่า Ripple มีทีมที่เหมาะสม และส่วนผสมที่ลงตัวที่จะทำให้ 2021 เป็นปีที่ประสบความสำเร็จมากกว่าปีที่ผ่านมา” Garlinghouse กล่าว
ทั้งนี้ ในช่วงปลายปีที่แล้ว Ripple ถูกตั้งข้อหากรณีขายหุ้นที่ไม่ได้จดทะเบียนมูลค่า 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อ 7 ปีที่แล้ว โดย SEC โดยตัวแทนทางกฎหมายของทั้งสองฝ่ายจะมีกำหนดนัดฟังการพิจารณาไต่สวนเป็นครั้งแรกในเดือนก.พ.ที่จะถึงนี้
