สัปดาห์นี้ถือเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญของเศรษฐกิจมหภาค เนื่องด้วยเหล่าธนาคารจากสหรัฐฯ ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรปกำลังจะประชุมหารือแนวทางของนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยก่อนหน้านี้ รัฐบาลสหรัฐฯได้ทำการอัดฉีดเงินจำนวนมากเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจไปเรียบร้อยแล้ว แต่ก็ยังดูเหมือนว่าจะไม่ได้ผลอะไรชัดเจนมากนัก นักลงทุนยังตั้งความหวังว่าธนาคารกลางจะออกนโยบายต่อเนื่องเพื่อพยุงตลาดต่อไปเรื่อย ๆ โดยแนวทางนโยบายจะเป็นตัวตัดสินว่านักลงทุนจะแพนิกอีกครั้งหรือจะยังไปต่อกับสภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้
บิทคอยน์และคริปโตฯอื่น ๆ น่าจะยังเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบแคบ ๆ ต่อไปในช่วงวันสองวันนี้
ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา Bitcoin (BTC) ขยับตัวอยู่ในกรอบระหว่าง 7,500 – 7,600 ดอลลาร์ แม้จะมีแรงเทขายออกมาให้หวาดเสียวอยู่บ้าง แต่ระดับ 7,500 ก็ยังเป็นแนวรับชั่วคราวที่ไว้ใจได้อยู่และส่งให้ BTC เด้งกลับมาทะลุแนวต้านระยะสั้นที่ 7,700 ดอลลาร์ไปได้ในที่สุด
ขณะที่ในอีก 24 ชั่วโมงข้างหน้า เมื่อ BTC สามารถขึ้นไปยืนเหนือระดับ 7,600 ได้แล้ว อาจจะมีการไซด์เวย์ต่อไปอีกซักพักในกรอบระหว่าง 7,600 – 7,800 ดอลลาร์ แม้สภาวะการณ์ของเศรษฐกิจโลกตอนนี้จะยังไม่คลี่คลายดีนัก แต่ก็เริ่มมีนักลงทุนบางส่วนเห็นว่านโยบายการอัดฉีดเงินของธนาคารกลางจะส่งผลเสียต่อระบบการเงินของโลกในระยะยาวอย่างแน่นอน ทำให้บางส่วนเลือกค้ำประกันความเสี่ยงไปลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยและสินทรัพย์ที่มีจำนวนจำกัดอย่างเช่นทองคำและบิทคอยน์ ส่งผลให้เราได้เห็นราคาของทองคำปรับตัวสูงขึ้นไปทดสอบ All-Time-High อีกครั้งหนึ่งนั่นเอง
สรุปแล้วช่วงนี้เป็นเวลาดีที่ควรซื้อ Bitcoin หรือยัง? คำตอบเป็นได้หลายแนวทางขึ้นอยู่กับจุดมุ่งหวังในการลงทุนของแต่ละคน โดย Bitcoin นั้นถูกออกแบบมาให้มีจำนวนจำกัด และมีอัตราเฟ้อต่ำลงเรื่อย ๆ (Deflationary) แต่มันก็หมายความว่า Bitcoin มีมูลค่าเพียงเท่าที่จะมีคนให้ค่ามันเท่านั้น เหตุการณ์สำคัญอย่าง Halving ที่กำลังใกล้เข้ามาจะส่งผลให้อัตราการเฟ้อของ Bitcoin ลดลงไปต่ำกว่าทองคำเสียอีก ขณะที่ธนาคารกลางทั่วโลกใช้นโยบายการพิมพ์เงินออกมาอย่างไม่จำกัด โดยหวังว่าปริมาณเงินอัดฉีดมหาศาลนี้จะช่วยแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่สั่นคลอนเพราะรากฐานไม่มั่นคงนี้ได้ง่าย ๆ มันคงไม่น่าแปลกใจเลยถ้ามีนักลงทุนบางส่วนเลือกกระจายความเสี่ยงไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีอัตราเฟ้อต่ำอย่าง Bitcoin โดยจุดเข้าซื้อที่เหมาะสมนั้นอาจต้องรอให้ Bitcoin ย่อลงมาทดสอบแนวรับสำคัญที่บริเวณ 7,300 ดอลลาร์อีกครั้งนึงก่อน
สำหรับ Ethereum (ETH) นั้นได้ขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญที่บริเวณ 200 ดอลลาร์ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา แม้จะไม่สามารถวิ่งทะลุไปได้ในรอบแรก แต่ก็สามารถลงมาหาฐานแนวรับที่บริเวณ 195 ดอลลาร์ได้ไม่ยากเย็นนัก ในช่วงสัปดาห์นี้ หาก Bitcoin สามารถขึ้นไปยืนเหนือระดับ 8,000 ดอลลาร์ได้สำเร็จ Ethereum น่าจะมีแรงฉุดให้ขึ้นไปยืนเหนือระดับ 200 ดอลลาร์ได้ โดยน่าจะไปหยุดอยู่ที่ระหว่าง 210 และ 220 ดอลลาร์เพื่อสะสมกำลังอีกครั้ง
Bitcoin SV (BSV) ขณะนี้ซื้อขายอยู่ที่บริเวณ 190 ดอลลาร์ ค่อนข้างเป็นราคาที่ล่อตาล่อใจไม่น้อย เพราะถ้าหาก Bitcoin ปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกครั้งหนึ่ง BSV ก็น่าจะตามทะลุเหนือระดับ 200 ดอลลาร์ไปพร้อม ๆ กับ ETH ได้อย่างไม่ยากเย็นเช่นกัน
นอกจากนี้ Bitcoin Cash (BCH) น่าจะขยับตัวอยู่ในกรอบระหว่าง 230 ถึง 260 ดอลลาร์ ขณะที่ Litecoin (LTC) ดูเหมือนจะโชว์ผลงานได้ดีกว่า จุดเข้าซื้ออยู่ที่ 43 ดอลลาร์ และเป้าอยู่ที่ 60 ดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ของตลาดคริปโตฯจะเป็นไปในทางไหน อาจต้องรอแนวทางที่ชัดเจนมากกว่านี้จากธนาคารทั่วโลกเสียก่อน
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง: บทวิเคราะห์ Bloomberg ชี้ บิทคอยน์กำลังพัฒนาเป็นทองคำดิจิทัล
