วิกฤติโควิด-19 ตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทำให้เกิดแรงเทขายสินทรัพย์การลงทุนแทบทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นหุ้น น้ำมัน แม้แต่ทองคำที่ถูกมองว่าเป็น Safe-Haven มีเพียงแค่ Dollar Index และดัชนี VIX เท่านั้นที่ปรับตัวขึ้น สะท้อนว่านักลงทุนอยู่ในสภาวะกลัวสุดขีดและพร้อมใจกันเก็บเงินเข้าไปไว้ในเงินดอลลาร์
ไม่เว้นแม้แต่ บิทคอยน์ ยังถูกเทขายจนปรับตัวลดลงกว่า 50% จากจุดสูงสุดและลงมาทำราคาต่ำสุด 3800 เหรียญ เกือบจะหลุดระดับต่ำสุดที่ 3200 เหรียญ แต่ล่าสุดปรับตัวขึ้นเคลื่อนไหวอยู่ในระดับ 6,000 เหรียญ
ขณะที่ดัชนี SCN30 ซึ่งสะท้อนความเคลื่อนไหวของ Altcoin จำนวน 30 เหรียญ ได้ปรับตัวลดลงจากจุดสูงสุด 206.48 จุดมาอยู่ที่ระดับ 93.30 (Update 7.00น.)
ติดตามดัชนี SCN30 ได้ที่ลิงก์นี้
คำถามสำคัญหลังจากนี้คือ บิทคอยน์ จะยังสามารถขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดใหม่ได้อีกหรือไม่ ท่ามกลางกระแสของ Halving ที่กำลังจะมาถึง
หากใช้ทฤษฎี Elliot Wave ยังพออุ่นใจได้ว่าบิทคอยน์ยังสามารถขึ้นไปทำเวฟที่สามซึ่งเป็นเวฟที่เป็นขาขึ้นยาวนานที่สุดตามความคาดหวังของนักลงทุน จากภาพการที่ราคาที่ถูกเทขายล่าสุดไม่ได้ทำโลว์ใหม่หรือต่ำกว่า 3,200 เหรียญ ทำให้แนวโน้มปัจจุบันของบิทคอยน์ยังอยู่ในช่วงพักเวฟที่สองและทำคลื่นย่อยมาถึงระดับ C พร้อมที่จะเริ่มเป็นขาขึ้นรอบใหญ่ในคลื่นที่สามได้
อีกทฤษฎีหนึ่งบิทคอยน์ได้ลงมาทำจุดต่ำสุดในคลื่นที่สองแล้วและกำลังทำคลื่นย่อยที่หนึ่งและสองและกำลังจะขึ้นในคลื่นที่สามย่อย ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของคลื่นสามใหญ่ด้วย
ขณะที่ราคาบิทคอยน์ยังยืนเหนือเส้นเทรนด์ภาพใหญ่ได้แม้จะมีหลุดลงไปช่วงสั้นๆแต่ก็มีแรงซื้อกลับคืนมายืนได้ในที่สุด ภาพใหญ่จึงยังไม่หลุดแนวโน้มขาขึ้น
ด้านอินดิเคเตอร์อย่าง MACD กำลังบอกว่าราคาเริ่มกลับมาในแดนบวกแล้วส่วนเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (EMA) ตอนนี้เส้น EMA50 ยังต่ำกว่าเส้น EMA200 วัน
บทสรุปภาพทางเทคนิคของ บิทคอยน์ ยังคงความน่าจะเป็นในการเป็นขาขึ้นรอบใหญ่ได้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยพื้นฐานแล้วว่าจะสนับสนุนราคาบิทคอยน์ให้ไปได้ไกลเพียงใด
อ่านเพิ่มเติม : Bitcoin Standard จะเกิดหลังวิกฤติโควิด-19 หรือไม่
