นักวิเคราะห์ราคาและข้อมูลของบิทคอยน์ PlanB โด่งดังมาจากโมเดล Stock-to-Flow ของเขาที่ทำการคำนวนจำนวนบิทคอยน์ที่มีอยู่ในตลาด (Stock) และจำนวนบิทคอยน์ที่เกิดใหม่ (Flow) รวมไปถึงปัจจัยที่มีผลต่ออัตราการเฟ้ออย่างเหตุการณ์ Halving ว่ามันมีผลอย่างไรต่อราคา โดยจากการคาดการณ์ของเขา บิทคอยน์จะสามารถขึ้นไปสูงถึง 1 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 32 ล้านบาท) ต่อหนึ่งบิทคอยน์ได้เลยทีเดียว
Image Source: https://twitter.com/100trillionUSD
PlanB ได้ทำการรวบรวมเส้นทางการเติบโตของบิทคอยน์ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โดยระหว่างที่กำลังออกรายการ Podcast กับนาย Peter McCormack อยู่นั้น เขาได้ให้ความเห็นว่า “บิทคอยน์มันไม่ใช่ของเด็กเล่นอีกต่อไปแล้ว” และยังเสริมอีกว่า “บางทีมันอาจจะก้าวพ้นข้อจำกัดของคำว่าสินทรัพย์ไปแล้วด้วยซ้ำ มันจะกลายเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น”
ทั้งสองเริ่มบทสนทนาด้วยการย้อนกลับไปถึงเมื่อ 11 ปีก่อนที่บิทคอยน์พึ่งจะถือกำเนิดขึ้น ซึ่งขณะนั้นบิทคอยน์ยังเป็นแค่คอนเซ็ปต์ของเงินดิจิทัลที่ไม่มีใครรู้ว่ามันจะประสบความสำเร็จได้หรือไม่ “มันเหมือนของเล่นจำลอง” นาย McCormack กล่าว
PlanB ยังชี้ให้เห็นว่า บิทคอยน์เริ่มต้นด้วยมูลค่าเพียงน้อยนิด Market Cap ของมันมีมูลค่าไม่ถึง 1 ล้านดอลลาร์ด้วยซ้ำในช่วงปีแรก ๆ จากนั้นเมื่อมันได้พิสูจน์ตัวเองและได้การยอมรับจากประชาชนมากขึ้น การเปลี่ยนถ่ายจาก “เงินของเล่น” ก็เริ่มก้าวไปสู่ “เงินเฟ้อฝันของนักท่องเน็ต” และมาเทียบเท่ากับ”สกุลเงินดอลลาร์”ได้ในที่สุดเมื่อมันมีมูลค่าแตะ 1 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในปี 2011
เขายังไล่ลำดับหน้าที่การใช้งานของบิทคอยน์ที่พัฒนาไปตามยุคสมัยและมูลค่าของมันอีกด้วยว่า มันเริ่มจากการเป็นเพียงช่องทางชำระเงินผ่านอินเตอร์เน็ต จนมามีคุณสมบัติในการเก็บมูลค่าเช่นเดียวกับทองคำ และตอนนี้นักลงทุนทั่วโลกต่างใช้มันเป็นเครื่องมือในการลงทุน
ในท้ายที่สุดแล้ว PlanB ยังให้ความเห็นว่า บิทคอยน์จะก้าวพัฒนาขึ้นไปอีกขั้นหลังจากการ Halving ในครั้งนี้ แต่เขายังไม่ได้เปิดเผยอย่างชัดเจนนักว่ามันจะเป็นอะไร แต่เราทุกคนคงจะได้เป็นพยานในการเห็นบิทคอยน์เติบโตไปพร้อม ๆ กันในช่วงไม่กี่ปีที่จะถึงนี้อย่างแน่นอน
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง: วิกฤตเศรษกิจ: จุดเริ่มต้นและจุดจบของ Bitcoin?