ท่ามกลางความผันผวนของตลาดการเงินทั่วโลกจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด แต่หนึ่งในสินทรัพย์ที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างดีในปีนี้ก็คือหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ดิจิทัลอะไรน่าลงทุนกว่ากัน?
ดัชนี NASDAQ ซึ่งเป็นตลาดซื้อขายของหุ้นเทคโนโลยีย่างกลุ่ม FAANG (Facebook,Google,Amazon,Netflix,Apple) ปรับตัวขึ้น 14.61% ในปีนี้ (YTD) ถือเป็นดัชนีที่สร้างผลตอบแทนดีที่สุด ขณะที่หุ้นหลายตัวอย่าง TESLA APPLE สามารถสร้างจุดสูงสุดใหม่ได้
ขณะที่บิทคอยน์สามารถสร้างผลตอบแทนได้ 30% ตั้งแต่ต้นปี เปรียบเทียบกับราคาทองคำที่สร้างผลตอบแทนได้ 14.41% ซึ่งใกล้เคียงกับดัชนี NASDAQ
ส่วนดัชนี SCN30 Index ซึ่งเริ่มต้นวัดผลดำเนินงานในปีนี้ที่ 100 จุด ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 154 จุด เท่ากับว่าสร้างผลตอบแทนได้ประมาณ 54% ตั้งแต่ต้นปีโดยขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดที่ 205 จุด
ทั้งหุ้นเทคโนโลยีและสินทรัพย์ดิจิทัล (รวมถึงทองคำ) ต่างเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับประโยชน์จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด อย่างไรก็ตามหากเจาะลึกลงไปในหุ้นเทคโนโลยี อาจไม่ใช่ทุกตัวที่จะได้รับประโยชน์โดยตรงจากไวรัสโควิดในระยะสั้น แต่ได้รับประโยชน์จากสภาพคล่องที่มีอยู่ล้นในตลาดที่เกิดจากการทำคิวอี
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ได้รับประโยชน์โดยตรงในระยะสั้นน่าจะเป็นกลุ่มไบโอเทคโนโลยีที่ผลิตวัคซีนต้านไวรัสโควิด กลุ่มซอฟท์แวร์ที่รองรับการทำงานที่บ้าน
ขณะที่สินทรัพย์ดิจิทัลโดยเฉพาะบิทคอยน์จะได้รับประโยชน์โดยตรงจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดทั้งกระแสการลดใช้เงินสดและอัตราเงินเฟ้อที่จะเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ดัชนี NASDAQ สร้างนิวไฮไปแล้วแต่บิทคอยน์ยังรอวันที่จะกลับไปทำนิวไฮใหม่อยู่
อย่างไรก็ตามในระยะยาวทั้งหุ้นเทคโนโลยีและสินทรัพย์ดิจิทัลต่างเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจในการลงทุนในยุค New Normal ทั้งสิ้น
บทความที่เกี่ยวข้อง : ลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลแบบ DCA อย่างไรให้มีกำไรในระยะยาว
วิเคราะห์ทางเทคนิคของบิทคอยน์
นักเทรดอาจจะค่อนข้างรำคาญกับราคาบิทคอยน์ที่เคลื่อนไหวแบบไซด์เวย์มายาวนานตั้งแต่ Breakout ขึ้นมายืนเหนือระดับก่อนเกิดวิกฤติโควิดตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน เป็นเวลากว่าสองเดือนแล้วที่แนวต้านสำคัญ 10,500 ดอลลาร์ ยังไม่สามารถผ่านไปได้
กลยุทธ์การเทรดที่เหมาะสมยังคงเป็น Channel Trade ภายในกรอบ 8,800-10,500 ดอลลาร์ ซึ่งพอที่จะสร้างผลตอบแทนได้ประมาณ 20% หรือจะเทรดโดยใช้เครื่องมืออย่าง Bolinger Band ถือว่ามีความแม่นยำสูงในภาวะการเคลื่อนไหวแบบไซด์เวย์
หากผ่านระดับ 10,500 ดอลลาร์ ไปได้บิทคอยน์ถึงจะแสดงถึงความเป็นขาขึ้นที่ชัดเจน ซึ่งการที่ราคาไซด์เวย์มายาวนานถือเป็นการสะสมพลังในตัวเอง หากเกิดการ Braeakout เลือกทิศทาง (ทั้งขึ้นและลง) จะเป็นการเปลี่ยนแปลงของราคาที่รุนแรง
บทความที่เกี่ยวข้อง : ทองคำ vs บิทคอยน์ ลงทุนอะไรดีกว่ากัน : SCN Talk 1