- อีลอน มัสก์ คือผู้ที่ทำให้ราคาของบิทคอยน์ปรับขึ้น ก่อนร่วงลงได้
- มัสก์ คือหนึ่งในคนดังในแวดวงสังคมที่ออกมาแสดงจุดยืนสนับสนุนบิทคอยน์ต่อสาธารณะชนอย่างชัดเจน
ไม่ว่าความคิดเห็นที่คุณมีต่อ อีลอน มัสก์ จะเป็นอย่างไร แต่สำหรับนักลงทุน ความเห็นดังกล่าวอาจไปไกลกว่าการลงทุนในสินทรัพย์ที่มัสก์บ่มเพาะขึ้นมา
ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็น หุ้น Tesla (+5.83%) หรือ SpaceX นายมัสก์ ผู้แสนฟู่ฟ่าและพูดจาอย่างตรงไปตรงมาได้พิสูจน์ให้นักลงทุนเห็นว่า สินทรัพย์ที่พวกเขาคลางแคลงใจนั้นเป็นสินทรัพย์ที่ยอดเยี่ยมและให้ผลตอบแทนที่น่าทึ่งมากเพียงใด
และความเคลื่อนไหวล่าสุดที่เข้าไปร่วมทุนในบิทคอยน์ ได้สร้างแรงกระเพื่อมให้แก่อุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซี เพราะเท่ากับเป็นการประกาศต่อสาธารณะให้รับทราบโดยทั่วหน้ากันว่า เจ้าตัว เป็นสนับสนุนสินทรัพย์ดิจิทัล
โดยมัสก์ ได้แสดงความเห็นผ่าน แอปพลิเคชั่น Clubhouse ระบุชัดว่า ในความคิดของตน บิทคอยน์เป็นสิ่งที่ดี พร้อมยอมรับว่าตนเองเข้ามาในอตุสาหกรรมนี้ช้าเกินไป และน่าจะซื้อสกุลเงินดิจิทัลตั้งแต่เมื่อ 10 ปีที่แล้ว
ความเห็นข้างต้นของเจ้าพ่อเทสลาและสเปซเอ็กซ์ ทำราคาบิทคอยน์ขยับพุ่งทะลุ 34,000 ดอลลาร์สหรัฐในช่วงเวลาซื้อขายก่อนที่จะขยับปรับตัวลงมาเล็กน้อย
ขณะเดียวกัน ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาของบิทคอยน์ขยับปรับขึ้นมากถึง 16% หลังจากที่มักส์เปลี่ยนโปรไฟล์ทวิตเตอร์ของตนเองเป็น #bitcoin กระนั้น ราคาของบิทคอยน์ก็ปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็วในวันจันทร์ที่ตลาดเปิดทำการและบรรดนักเทรดทั้งหลายกลับเข้ามาประจำการ ซึ่ง
ในฐานะที่เป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีข้อจำกัด และไม่มีปัจจัยพื้นฐานในอดีต บิทคอยน์จึงมักตกเป็นเป้าวิพากษ์วิจารณ์โจมตีจากบรรดานักลงทุนรายใหญ่อยู่เสมอ
ด้านนักลงทุนรายย่อยที่เพิ่งจะได้มีโอกาสสัมผัสพลังอำนาจของตนผ่านกลไกทางการเงินที่เรียกว่า “smart money” ยังมีการใช้เงินไปลงทุนบนฟอรั่ม Reddit และฟีดทวิตเตอร์ ส่งผลให้มีม คริปโตเคอร์เรนซีอย่าง Dogecoin พุ่งทะยานขึ้น 70% ในวันเดียว ก่อนที่จะปรับตัวลดลงในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ มัสก์กล่าวผ่าน แอปพลิเคชั่น Clubhouse ว่า ตนเองไม่ค่อยมีความเห็นมุมมองที่ชัดเจนเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ นอกเหนือจากบิทคอยน์
ในฐานะสกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลต่ามากที่สุดในตลาดคริปโตเคอร์เรนซี มูลค่าของบิทคอยน์ได้ปรับตัวลดลงไปแล้ว 8,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หลังจากที่เฉียดระดับสูงสุดที่ 42,000 ดอลลาร์สหรัฐเมื่อต้นปีที่ผ่านมา
และในระหว่างที่ นักลงทุนบางคนลงความเห็นว่า บิทคอยน์ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางเพราะสถานะที่ใกล้เคียงกับทองคำในการเป็นสินทรัพย์รับมือกับอัตราเงินเฟ้อ นักลงทุนอีกส่วนหนึ่งกลับมองว่าราคาที่ขยับปรับขึ้นมานี้เป็นการเก็งกำไรของบรรดานักลงทุนรายย่อยที่ต้องการอาศัยจังหวะการโหมใช้นโยบายทางการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในหลายประเทศทั่วโลกกอบโกยรายได้เข้าตัว
อย่างไรก็ตาม เพราะว่า บิทคยอน์ได้รับอิทธิพลจากความเห็นของตลาดอย่างมาก ทำให้ทั้งสองมุมมองข้างต้นอาจเป็นความเห็นที่ถูกต้องในทางเทคนิก เพียงแต่เป็นความถูกต้องที่ต่างกรรมต่างวาระก็เท่านั้น
Patrick Tan, SCN Contributor
CEO ของ Novum Alpha, ซึ่งเป็นบริษัทซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำที่ใช้เครื่องมือ Deep Learning ในการสร้างผลตอบแทนในรูปสกุลเงินดอลลาร์ ในทุกสภาวะเงื่อนไขของตลาด