เทคโนโลยีบล็อกเชนที่เราใช้กันอยู่ในทุกวันนี้โดยเฉพาะของบิทคอยน์มักจะเป็นไปในแนวทางของการรับส่งเงินระหว่างกัน แต่บล็อกเชนสามารถทำอะไรได้มากกว่านั้นจากความพิเศษของมันที่เก็บข้อมูลได้อย่างปลอดภัย และยากต่อการแก้ไขปลอมแปลง ทำให้มหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของโลกอย่าง Massachusetts Institute of Technology (MIT) เลือกใช้บล็อกเชนของบิทคอยน์มาออกใบปริญญาให้แก่นักศึกษาของตนเอง
โดยล่าสุด ผู้ใช้ Reddit u/wandererli ได้โพสรูปใบปริญญา MIT ของเขาที่อยู่บนบล็อกเชนของบิทคอยน์โดยเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าไปตรวจสอบได้ว่าใบปริญญานี้เป็นของแท้ โดยเขาอธิบายเพิ่มเติมว่า มหาวิทยาลัย MIT นั้นมีกระเป๋าสตางค์ (Wallet) ของตัวเอง และทุกธุรกรรมที่ส่งออกมาจาก Wallet นี้ก็เป็นเครื่องยืนยันว่าเป็นข้อมูลของ MIT จริง ๆ โดยทางมหาวิทยาลัยจะทำการแปลงข้อมูลทุกอย่างทุกตัวอักษรบนใบปริญญาให้เป็น Hash ซึ่งถ้าหากมีคนพยายามปลอมแปลงข้อมูลในปริญญาบัตรแล้ว Hash ที่ออกมาจะไม่เหมือนเดิม ทำให้รู้ได้ว่าอันไหนเป็นของจริงหรือของปลอม
Wandererli ยังให้ความเห็นอีกว่า ส่วนตัวแล้วเขาคิดว่านี่มันเจ๋งและดีกว่าใบปริญญาในรูปแบบกระดาษมาก เพราะใครก็สามารถตกแต่งรูปและพิมพ์ใบปริญญาปลอมออกมาได้อย่างไม่ยากเย็นนัก และการจะตรวจสอบก็ทำได้ยากโดยต้องโทรศัพท์ไปหาทางมหาวิทยาลัยและยื่นเรื่องตรวจสอบซึ่งใช้เวลานาน แต่เมื่อข้อมูลมาอยู่บนระบบบล็อกเชนแล้วมันสามารถทำได้ง่าย ๆ จากที่ไหนก็ได้
มีผู้ใช้รายหนึ่งตั้งข้อสงสัยว่า การเก็บข้อมูลบนบล็อกเชนเช่นนี้มันดีกว่าการที่มหาวิทยาลัยทั่วไปใช้ระบบเก็บฐานข้อมูลออนไลน์ที่ให้คนเข้าไปกรอกชื่อแล้วตรวจสอบได้ทันทีอย่างไร? ผู้ใช้ u/heph789 ก็ได้เข้ามาชี้แจงว่า การเก็บข้อมูลเช่นนี้ถูกกว่าการสร้างฐานข้อมูลแบบปรกติมาก โดยมหาวิทยาลัยเพียงต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการโอนเพียงครั้งเดียวเพื่อให้ข้อมูลขึ้นไปอยู่บนบล็อกเชนของบิทคอยน์ ขณะที่ฐานข้อมูลจากเซิฟเวอร์หรือ Cloud Storage นั้นมีค่าใช้จ่ายในการดูแลตลอดการใช้งาน
นอกจากนี้มันยังสะดวกและปลอดภัยกว่าเพราะฐานข้อมูลแบบดั้งเดิมนั้นสามารถถูกเข้าไปเปลี่ยนแปลงข้อมูลจากผู้มีอำนาจหรือแฮกเกอร์ได้ตลอดเวลา และถ้าหากเว็บไซต์ล่มหรือมหาวิทยาลัยต้องปิดตัวไปก็จะทำให้ไม่สามารถเข้าไปดูข้อมูลนั้น ๆ ได้อีก ขณะที่บล็อกเชนของบิทคอยน์กระจายศูนย์อยู่ทั่วโลก จึงเป็นไปได้ยากกว่าที่ข้อมูลทั้งหมดจะสูญหายไปนั่นเอง
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง: Power Ledger จับมือบริษัทลูกการไฟฟ้าฯนำเทคโนโลยีซื้อขายไฟฟ้าผ่านบล็อกเชนมาสู่คนไทย
