fbpx
Skip to content Skip to footer

MILL จับมือ “บิลค์ วัน กรุ๊ป” ยกระดับบล็อกเชนซื้อขายเหล็กสู่ Financial Supply Chain

นายธานี โลเกศกระวี รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานขายและการตลาด บมจ.มิลล์คอน สตีล (MILL) เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัทได้ร่วมกับ บริษัท บิลค์ วัน กรุ๊ป จำกัด เปิดตัวการนำเทคโนโลยีบล็อกเชน แบบ Multi-tier supply chain ใช้งานจริงครั้งแรกในการซื้อขายเหล็ก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดซื้อและเตรียมพัฒนาต่อยอด สู่ห่วงโซ่อุปทานทางการเงิน (Financial Supply Chain) เต็มรูปแบบ 

ความร่วมมือดังกล่าวเป็นการพัฒนาโซลูชั่นสำหรับงานขาย โดยการนำเทคโนโลยีบล็อกเชน ประยุกต์ใช้งานด้านเอกสารซื้อขายออนไลน์ระหว่างบริษัทกับลูกค้า เพื่อความสะดวก รวดเร็ว แม่นยำและสามารถตรวจสอบได้ ซึ่งที่ผ่านมาถือว่าประสบความสำเร็จในระดับที่น่าพอใจ

ธุรกิจเหล็กของกลุ่มบริษัท มีโครงสร้างห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ที่ซับซ้อน ประกอบกับการเติบโตในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐ อาทิ รถไฟทางคู่และรถไฟความเร็วสูง ขณะที่บิลค์ฯ มีประสบการณ์ด้านการพัฒนาระบบ ERP และ Digital Workflow ในธุรกิจรับเหมาก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่มาก่อน จึงเกิดความร่วมมือในการพัฒนาเทคโนโลยีบล็อกเชนขึ้นเพื่อนำมาใช้ในธุรกิจซื้อขายวัสดุก่อสร้าง 

โดยเริ่มจากการซื้อขายสินค้ากลุ่มเหล็กของกลุ่มบริษัท มิลล์คอน สตีล ซึ่งเป็นโรงงานผู้ผลิต กับลูกค้า ทำให้สามารถลดระยะเวลาและเพิ่มความปลอดภัยในการดำเนินงานมากยิ่งขึ้น อีกทั้งเป็นการลดการใช้เอกสาร (Paperless) ซึ่งนับเป็นการลดการใช้วัสดุสิ้นเปลืองด้วย

นายไผท ผดุงถิ่น กรรมการผู้จัดการ บริษัท บิลค์ วัน กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันลูกค้าที่ซื้อขายผ่านระบบอีคอมเมิร์ซ ของบริษัท กว่า 75% ของยอดขายมาจากกลุ่มผลิตภัณฑ์เหล็ก โดยมีกลุ่มบริษัท มิลล์คอน สตีล เป็นซัพพลายหลัก ดังนั้น จึงมีแนวคิดที่จะพัฒนาเทคโนโลยี บล็อกเชน แบบ Multi-tier Supply Chain ขึ้นมา เพื่อยกระดับบล็อกเชนให้มีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผลมากขึ้น ซึ่งเป็นระบบที่ใช้งานจริงครั้งแรกในการซื้อขายเหล็ก และพร้อมพัฒนาต่อยอดสู่ Financial Supply Chain ซึ่งเป็นการพัฒนาการทำธุรกรรมออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มใช้งานอย่างเป็นทางการได้ตั้งแต่ต้นปีหน้า

Leave a comment

เกี่ยวกับ SuperCryptoNews

สื่อชั้นนำด้านบล็อกเชนและคริปโตในภูมิภาคเอเชีย นำเสนอข่าวสารด้านเทคโนโลยีและการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลอย่างรอบด้านและเจาะลึก ครอบคลุมทั้งภูมิภาคเอเชียเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะสิงคโปร์และประเทศไทย

สมัครรับข่าวสารจาก SCN