เมื่อวันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมา MakerDAO (MKR) ผู้ออกแบบและพัฒนา Stablecoin นามว่า “Dai” ได้ประกาศร่วมมือกับ Simplex เพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถซื้อ Dai ได้โดยตรงด้วยการชำระผ่านบัตรเครดิตและเดบิต
นาย Gustav Arentoft ตัวแทนจาก MakerDAO ในโซนยุโรป ได้ให้ความเห็นว่า
“การร่วมมือกันระหว่าง Dai และ Simplex นั้นจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ใช้ทั้งในปัจจุบันและอนาคต ด้วยระบบที่ไม่ยุ่งยากและลดขั้นตอนในการทำธุรกรรมนั้น จะช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งานให้ผู้ใช้ทั่วไปเข้าถึงได้ง่ายขึ้น”
บริษัท MakerDAO ถือเป็นหนึ่งในผู้นำในระบบการเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi) และเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง Stablecoin อย่าง Dai ที่อยู่บนพื้นฐานของแพลตฟอร์ม Ethreum Smart Contracts โดยจากข้อมูลบนเว็บไซต์ DeFi Pulse เราจะเห็นได้ว่า จากมูลค่าเงินทั้งหมดที่ล็อคอยู่ในระบบ DeFi เป็นจำนวน 967.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯนั้น MakerDAO ครองอันดับ 1 โดยมีส่วนแบ่งถึง 56.85% จากมูลค่าทั้งหมด คิดเป็นมูลค่ามากกว่า 550 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ระบบการชำระเงินที่จะเป็นกุญแจสำคัญในการขยายตลาด
Simplex เป็นบริษัทผู้ให้บริการแพลตฟอร์มการรับชำระเงินดิจิทัล มีจุดเด่นในการอำนวยความสะดวกในการชำระเงินด้วยบัตรเดบิตและบัตรเครดิตที่ได้รับการอนุญาตจากสหภาพยุโรป โดยมีพันธมิตรมากกว่า 100 บริษัท เช่น Binance, OKCoin, KuCoin และ OKEx ทั้งนี้ แพลตฟอร์มของ Simplex รองรับคริปโตเคอเรนซี่มากกว่า 13 ชนิด เช่น Bitcoin (BTC), Binance USD (BUSD), Stellar (XLM), Litecoin (LTC), Ether (ETH), XRP, Binance Coin (BNB) และ Bitcoin Cash (BCH) รวมถึงสกุลเงินทั่วไปอีก 19 ชนิด โดย Simplex ยังเคยให้สัมภาษณ์กับทางเว็บไซต์ Cointelegraph ว่า
“เราได้เห็นการเติบโตที่น่าทึ่งทั้งในด้านความต้องการและราคาของเหล่าคริปโตฯที่เข้าร่วมกับแพลตฟอร์มของเรา และเราเชื่อว่าจุดนี้จะทำให้ Simplex เป็นช่องทางการไหลเข้าของเงินปรกติมาสู่เงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลก”
การเติบโตของ DeFi
จากข้อมูลบน DeFi Pulse มูลค่าของสินทรัพย์ดิจิทัลที่ล็อคอยู่ในระบบ DeFi นั้นมีมูลค่ารวมสูงขึ้นถึง 186% ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา และยังมีรายงานการวิเคราะห์จาก Cointelegraph ว่า DeFi นั้นเป็นระบบการเงินแบบใหม่ที่มีศักยภาพพอที่จะมาแทนระบบการเงินในปัจจุบันได้
นอกจากนี้ Huobi ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มซื้อขายแลกเปลื่ยนคริปโตเคอเรนซี่ ยังได้เข้ามามีส่วนร่วมกับ DeFi โดยการประกาศเปิดตัว Huobi Chain ซึ่งเป็น DeFi บล็อกเชนแบบ Open source เพื่อทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มในการสร้างเทคโนโลยีการเงินแบบกระจายศูนย์
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง: มูลค่าอุตสาหกรรม Blockchain IoT อาจแตะ 5,800 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2026