Chainlink (LINK) ยังคงร้อนแรงทำอันดับในดัชนี SCN30 Index พุ่งขึ้นมาในอันดับที่ 3 ขณะที่สัปดาห์ที่ผ่านมาเหรียญที่มีผลงานโดดเด่นคือเหรียญที่ได้รับความนิยมจากคนจีนนั่นคือ EOS (EOS) และ Tron (TRX)
ดัชนี SCN30 Index เดินหน้าสร้างจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่องแตะจุดสูงสุดที่ระดับ 250 จุดโดยในรอบ 7 วันที่ผ่านมา ดัชนี SCN30 Index ปรับตัวขึ้น 10.4% จากระดับ 250.61 จุดมาอยู่ที่ระดับ 276.70 จุด ตลาดโดยรวมแม้ Chainlink (LINK) จะเป็นตัวหลักในการดันดัชนีเช่นเดียวกับ Eethereum (ETH) แต่มีการสลับกันขึ้นของ Altcoin รายตัวอยู่อย่างต่อเนื่อง
ตลาดการลงทุนสัปดาห์ที่ผ่านมาทั่วโลกตื่นเต้นกับข่าวการใช้วัคซีนต้านไวรัสโควิดในมนุษย์ของรัสเซียทำให้ทองคำที่ปรับตัวขึ้นแรงก่อนหน้านี้ถูกเทขายทำกำไรรวมถึงการประกาศอัตราการเติบโตของจีดีพีในไตรมาสของหลายประเทศที่ต่างติดลบในระดับเลขสองหลักทั้งสิ้น
สัปดาห์ที่ผ่านมา บิทคอยน์ ให้ผลตอบแทน 3.46% ทองคำให้ผลตอบแทน -2.33% น้ำมันดิบ WTI 2.00% ดัชนี NASDAQ 1.83% และดัชนี S&P500 0.64%
Altcoin ที่ผลงานโดดเด่นที่สุดในสัปดาห์ที่ผ่านมาคงหนีไม่พ้น LINK ที่ราคาพุ่งแตะ 20 ดอลลาร์ สร้างผลตอบแทนกว่า 40% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้จะพักฐานเล็กน้อยแต่ส่งผลให้อันดับในดัชนี SCN30 พุ่งขึ้นแตะอันดับสามเป็นรองเพียง ETH และ XRP ทำให้ผลตอบแทนรวมตั้งแต่ต้นปีทะลุ 968% เป็นที่เรียบร้อย
สัปดาห์ที่ผ่านมาเหรียญที่มีผลงานโดดเด่นกลับเป็นเหรียญที่นิยมเทรดกันในกลุ่มชาวจีนนั่นคือ TRX และ EOS ซึ่งอันดับในดัชนี SCN30 พุ่งถึง 4 อันดับมาอยู่ที่ 7 ได้เลยทีเดียว
TRX สามารถสร้างผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีที่ 129% ผลตอบแทนรอบสัปดาห์ที่ 48% จากกราฟเทคนิคระยะสั้นเป็นขาขึ้นอย่างชัดเจน โดยสามารถ Breakout แนต้านสำคัญคือจุดสูงสุดเดิมของปีนี้ที่ 0.271 ดอลลาร์ไปได้ และกำลังขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญตามแนว Fibonacci 161.8 ที่ระดับ 0.395
หากมีการพักฐานลงมาให้ใช้แนวรับคือจุดที่ Breakout ขึ้นมาที่ 0.271 เป็นจุดตัดสินใจ หากราคาไม่หลุดลงจากระดับดังกล่าวยังสามารถซื้อเก็งกำไรได้ หรือระยะสั้นจะใช้เส้น EMA9 เป็นจุดซื้อได้ มีความเป็นไปได้ที่ระยะสั้นอาจพักฐานเพราะ RSI ขึ้นไปทำไฮเดิมแล้ว ใช้จังหวะที่ราคาย่อตัวและไม่หลุดแนวรับสำคัญเป็นจุดซื้อได้
EOS ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 47% ผลตอบแทนรอบสัปดาห์ 18% จากกราฟเทคนิคราคากำลังฟอร์มตัวเป็นขาขึ้น ระยะสั้นติดแนวต้านตามแนว Fibonacci ที่ระดับ 3.912 ดอลลาร์ แนวรับสามารถใช้ตามแนว Fibonacci ที่ 3.42 ดอลลาร์หรือเส้น EMA9 เป็นจุดซื้อได้
ขณะที่แนวต้านสำคัญคือระดับ 5.51 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของปีนี้ ส่วนเป้าหมายระยะสั้นหากราคายังยืนอยู่ได้คือ 4.62 ดอลลาร์ ระยะสั้นยังสามารถเข้าซื้อเมื่อย่อตัวได้แต่ให้ระวังหาก RSI แตะระดับสูงสุด
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง : ไวรัสโควิดอาจรักษาได้ แต่ผู้ป่วยเรื้อรังกว่าคือค่าเงินดอลลาร์