สมาคม Libra เริ่มตกที่นั่งลำบากขึ้นเรื่อยๆ จากการที่พันธมิตรเริ่มถอนตัวออกไปอย่างเป็นทางการ เริ่มจาก Paypal ต่อด้วยบริษัทด้านการเงินอย่าง VISA,Masercard,Stripe และ eBay ได้ประกาศถอนตัว
ล่าสุด Booking Holding เจ้าของเวบจองโรงแรมชื่อดังอย่าง booking.com,Agoda ได้ออกแถลงการณ์ ถอนตัวออกจากสมาคม Libra แล้วเช่นกัน เท่ากับว่าได้มีพันธมิตรถอนตัวออกไปแล้ว 6 ราย คำถามคือผลกระทบจาก Libra จะทำให้ตลาดเงินดิจิตอลเป็นอย่างไรต่อไป
หากดูจากราคา บิทคอยน์ ในช่วงที่มีการประกาศข่าวเรื่องของ Libra ใหม่ๆ จะเห็นว่า
หลังเกิดข่าวลือว่าเฟซบุ๊คจะมีเงินดิจิตอลของตัวเอง ราคา บิทคอยน์ ได้ปรับตัวขึ้นไปจากระดับ 8,000 เหรียญไปแตะระดับสูงสุดที่ 13,000 แต่หลังประกาศอย่างเป็นทางการ ราคาก็ร่วงลงมาเป็นขาลงต่อเนื่องจนถึงวันนี้
แน่นอนว่าการเกิดขึ้นของ Libra ย่อมมีผลทำให้ตลาดเงินดิจิตอลและบิทคอยน์กลับมาคึกคักเพราะคนส่วนใหญ่ของโลกคุ้นเคยกับเฟซบุ๊คอยู่แล้ว น่าจะทำให้ผู้ใช้งานบางส่วนทดลองใช้ Libra ทันทีที่เปิดให้บริการและน่าจะมีบางส่วนที่เข้ามาในตลาดเงินดิจิตอลอื่นๆต่อไป
วิเคราะห์:ข่าวร้ายที่มีต่อ Libra น่าจะส่งผลกระทบต่อตลาดเงินดิจิตอลและบิทคอยน์ยังอยู่ในสภาวะหมีต่อไป เนื่องจากขาดแรงกระตุ้นที่มีผลกระทบเพียงพอที่จะผลักดันราคา
ล่าสุด 14 ตุลาคม 2019 ในการประชุมที่กรุงเจนีว่า ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ สมาคม Libra ได้ออกแถลงการณ์ว่าจะยังคงเดินหน้าโปรเจคท์นี้ต่อไป และยังได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 5 รายเพื่อบริหารโครงการดังกล่าว รวมถึงสมาชิกที่เหลือ 21 องค์กรได้ลงนามในสัญญาที่จะเข้าร่วมสมาคมอย่างเป็นทางการ
David Marcus ผู้ร่วมก่อตั้ง Calibra, Andreessen Horowitz จาก Katie Haun, Wences Cesares ซีอีโอของ Xapo , Patrick Ellis ที่ปรึกษาจาก PayU และ Matthew Davie หัวหน้าเฝ่ายกลยุทธ์ของ Kiva
ทั้งนี้ สมาชิกที่เหลืออยู่ต่างเป็นบริษัทสตาร์ทอัพอย่างเช่น Sportify,LYFT ขณะที่บริษัทขนาดใหญ่ได้ถอนตัวออกไปเหลือเพียง UBER,Vodafone ซึ่งเป็นองค์กรขนาดใหญ่ที่ยังคงอยู่ ขณะที่เหลือบริษัททางด้านการเงินเพียงแค่แห่งเดียวคือ PayU ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศเนเธอร์แลนด์
Dante Disparte หัวหน้าฝ่ายนโยบายและการสื่อสารของสมาคม Libra กล่าวว่า “มันไม่ใช่ความพ่ายแพ้ มันเป็นเพียงการแก้ไข”
บทวิเคราะห์อื่นที่เกี่ยวข้อง : ทำไม Libra ถึงจะล้มเหลว