ตลาดคริปโต สัปดาห์ที่ผ่านมามีการปรับฐานลงอย่างหนักและ Underperform สินทรัพย์การลงทุนดั้งเดิมอย่างทองคำและตลาดหุ้นอย่างชัดเจน ปัจจัยลบจึงไม่น่าใช่เศรษฐกิจมหภาคแต่เป็นความเสี่ยงของตลาดคริปโตเอง โดยเฉพาะปัญหาความเชื่อมั่นในตลาด DeFi หลังผู้ก่อตั้ง SushiSwap เทขายเหรียญตัวเองออกมาทั้งหมด จนกระทบไปยังเหรียญที่อยู่ในกลุ่มอื่น ๆ ให้ถูกเทขายลงมาด้วย
ดัชนี SCN30 Index ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลงจากจุดสูงสุด 308.85 จุดมาอยู่ที่ 227.43 จุด ลดลงกว่า 81.42 จุด หรือ 35.8% การปรับตัวลงแรงของเหรียญมาร์เก็ตแคปใหญ่ที่มี Ranking อยู่ในอันดับต้น ๆ อย่าง ETH, XRP และ LINK เป็นตัวฉุดดัชนีลง
สัปดาห์ที่ผ่านมา บิทคอยน์ (BTC) ให้ผลตอบแทน -12.14% ทองคำให้ผลตอบแทน -2.15% น้ำมันดิบ WTI -8.0% ดัชนี NASDAQ -4.03% และดัชนี S&P500 -2.1%
วิเคราะห์แนวโน้มทางเทคนิค LEND และ YFI
LEND และ YFI เป็นโทเคนสาย DeFi ที่ถูกลิสต์เข้ามาใหม่ในดัชนี SCN30 Index โดย LEND เป็นโปรโตคอลที่มีมูลค่าเหรียญที่ถูกล็อกไว้ (TVL) กว่า 1,370 ล้านดอลลาร์ อยู่ในอันดับที่สองจากการจัดอันดับของเวบไซต์ DeFi Pulse ส่วน YFI มีมูลค่า TVL ถึง 763 ล้านดอลลาร์ อยู่ในอันดับที่ห้า
LEND หรือ Aave เป็นโปรโตคอลที่ให้บริการกู้ยืมสินทรัพย์ดิจิทัลโดยไม่ผ่านตัวกลาง และ LEND คือ Governance Token ที่ใช้ในการโหวตเพื่อเปลี่ยนแปลงนโยบายต่าง ๆ รวมถึงเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ ภายในโปรโตคอล
ล่าสุด Aave เพิ่งได้รับใบอนุญาต Electronic Money Institution (EMI) จากหน่วยงานกำกับดูแลทางด้านการเงินของอังกฤษทำให้สามารถที่จะให้บริการ E-Money สำหรับการชำระเงินได้
นับตั้งแต่เข้าลิสต์ใน Binance ในช่วงเดือนพฤษภาคมปีนี้ ราคาเหรียญขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดกว่า 1,350% ล่าสุดแม้จะมีการพักฐานแต่ก็ยังสร้างผลตอบแทนได้ถึง 850%
กราฟ LEND ทำท่าจะหลุดเส้น EMA50 อยู่หลายครั้งในช่วงที่พักฐาน แต่มีแรงซื้อกลับมาทุกครั้ง หากยังสามารถยืนเหนือเส้น EMA50 ที่ 0.511 ดอลลาร์ รวมถึงแนว Fibonacci ที่ 0.475 ดอลลาร์ ได้ยังพอที่จะประคองแนวโน้มไม่ให้พลิกกลับเป็นขาลงได้ แต่สถานการณ์ยังมีความไม่แน่นอนสูงอาจต้องรอให้กลับมายืนเหนือเส้น EMA9, 25 และ 50 ได้เสียก่อนค่อยกลับเข้ามาซื้อ
YFI หรือ Yearn Finance คือการทำหน้าที่เป็นผู้รวบรวมข้อมูล (Aggregators) ผู้ให้บริการกู้ยืมสินทรัพย์ดิจิทัลในโลกของ DeFi ไม่ว่าจะเป็น Compound, Aave, Fulcrum, dydx, ddex และ dForce
จุดเด่นสำคัญของโทเคน YFI คือการกำหนดซัพพลายให้มีอย่างจำกัดชัดเจนคือ 30,000 เหรียญเท่านั้น การที่จะได้เป็นเจ้าของโทเคนYFI นี้จะได้จากการที่มีส่วนร่วมเพิ่มสภาพคล่องในแพลตฟอร์มด้วยการใช้ yTokens เท่านั้น
YFI จะทำหน้าที่เป็น Governance Token ก็คือผู้ที่มีโทเคนนี้จะได้รับสิทธิในการโหวตหรือเปลี่ยนแปลงนโยบายต่าง ๆ ภายในโปรโตคอล
กราฟเทคนิคของ YFI ช่วงที่พักฐานราคาเกือบที่จะลงมาทดสอบระดับ EMA25 ที่ระดับ 18,782 ดอลลาร์ แต่มีแรงซื้อกลับ ถึงอย่างไรยังไม่สามารถผ่านเส้น EMA9 ที่ 25,000 ดอลลาร์ ไปได้ กลยุทธ์การลงทุนอาจต้องรอให้ราคาลงมาทดสอบ EMA25 แล้วเข้าซื้อเก็งกำไรหรือรอให้กลับมายืนเหนือเส้น EMA9 ได้ถึงค่อยเข้าซื้ออีกครั้ง
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง : Binance เปิดตัว Liquid Swap ท้าชน DEX ยักษ์ใหญ่อย่าง Uniswap
