JPMorgan เตรียมประกาศจับมือ Deutsche Bank ซึ่งเป็นผู้เล่นรายใหญ่ที่สุดในแวดวงการเงินการธนาคารเยอรมันในสัปดาห์นี้ เพื่อร่วมพัฒนาโครงการบล็อกเชนที่ใหญ่ที่สุดของ JPMorgan อันเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายธนาคารที่ลงนามตกลงแลกเปลี่ยนข้อมูลการชำระเงินทั่วโลกผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชน
ลดต้นทุนและเสริมประสิทธิภาพการให้บริการด้านการเงิน
โครงการบล็อกเชนของ JPMorgan นี้ มีการพัฒนาในชั้นทดลองมาตั้งแต่ปี 2560 โดยตั้งเป้าสร้างเครือข่ายธนาคารเพื่อการแบ่งปันข้อมูลร่วมกันระหว่างธนาคารสมาชิก (IIN) โดยปัจจุบันมีสมาชิกทั้งสิ้น 320 ธนาคารที่เข้ามาร่วมพัฒนาระบบด้วยกัน ทั้งนี้ สำหนักข่าว Financial Times รายงานเมื่อเร็ว ๆ นี้ ว่า แพล็ตฟอร์มดังกล่าว สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลการชำระเงินทั่วโลกผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชนของ Ethereum
ในขณะที่ Deutsche Bank ระบุว่า ธนาคารตัดสินใจเข้าร่วมเครือข่ายในครั้งนี้ หลัก ๆ คือต้องการช่วยลูกค้าลดภาระค่าใช้จ่ายในการโอนเงินไปยังธนาคารในต่างประเทศลง และในขณะเดียวกันก็กระตุ้นให้เกิดการชำระเงินระหว่างประเทศที่รวดเร็วขึ้น เพราะโดยปกติแล้ว การโอนเงินไปต่างประเทศจะใช้เวลาที่นานและมีค่าใช้จ่ายที่สูง
Takis Georgakopoulos หัวหน้าฝ่ายการชำระเงินของ JPMorgan กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ จะช่วยให้ JPMorgan ขับเคลื่อนธุรกิจทางการเงินให้แพร่หลายเพิ่มขึ้น เพราะ Deutsche Bank ก็มีฐานลูกค้าอยู่ทั่วโลก และในขณะเดียวกัน Deutsche Bank เองก็สามารถใช้ประโยชน์อื่น ๆ จากแพล็ตฟอร์มได้อีกด้วย โดยเฉพาะในเรื่องของการเข้าใจพฤติกรรมลูกค้า เป็นต้น
ในขณะเดียวกัน Ole Matthiessen หัวหน้าฝ่ายการบริหารจัดการเงินสดของ Deutsche Bank กล่าวว่า IIN จะช่วยให้ Deutsche Bank ให้บริการลูกค้าดีขึ้น และช่วยให้การชำระเงินของลูกค้าที่ยุ่งยากกลายเป็นเรื่องง่ายขึ้น
แพล็ตฟอร์มบล็อกเชนและสมาชิกที่กำลังจะเพิ่มขึ้น
เครือข่าย IIN นั้นจะตั้งบนแพล็ตฟอร์มที่ชื่อว่า Quorum โดยได้รับการพัฒนาบนบล็อกเชนของ Ethereum
ทั้งนี้ Georgakopoulos กล่าวว่า JPMorgan คาดว่าจะมีธนาคารอื่น ๆ สนใจเข้าร่วมเครือข่าย และตั้งเป้าไว้ 400 ธนาคารภายในสิ้นปีนี้ และ JPMorgan ยังไ