fbpx
Skip to content Skip to sidebar Skip to footer

JP Morgan ธนาคารยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ เผย เรายังต้องรออีก 3 ถึง 5 ปี กว่าจะได้เห็นการใช้งานบล็อคเชนในธนาคารมากขึ้น

มีรายงานจากทาง JP Morgan Chase หนึ่งในธนาคารที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในโลกและเป็นสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกา ระบุว่า ในปัจจุบันได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีบล็อคเชน (Blockchain) อย่างต่อเนื่อง และมีการวางรากฐานเพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเป็นเงินดิจิทัลในอนาคต แต่การนำบล็อคเชนไปใช้งานจริงอย่างกว้างขวางนั้นอาจยังต้องรอไปอีกหลายปี 

โดยรายงานของ JP Morgan เผยว่า แม้จะมีการยอมรับในเทคโนโลยีบล็อคเชน การพัฒนาของคุณสมบัติในการชำระเงินที่รวดเร็ว และการสร้างสกุลเงินดิจิทัลต่าง ๆ มากขึ้น การบล็อคเชนมาใช้งาอย่างกว้างขวางสำหรับธนาคารยังต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อยสามถึงห้าปี และยังคงมีความท้าทายจากปัญหาต่าง ๆ ทั้ง สภาพเศรษฐกิจทั่วโลก ข้อจำกัดทางเทคนิค และข้อบังคับทางกฏระเบียบนั้น อาจเป็นตัวชะลอความคืบหน้าของการใช้งานบล็อคเชนอย่างกว้างขวางได้

ทาง JP Morgan ให้ความเห็นเกี่ยวกับโปรเจกต์ ‘Libra’ ซึ่งเป็น Stablecoin ของ Facebook นั้นได้แสดงให้เห็นว่า เราไม่ได้ต้องการการกระจายศูนย์ (Decentralized) มากขนาดนั้น โดยจากรายงานการวิเคราะห์เกี่ยวกับ Libra เผยว่า Stablecoins อย่าง Libra นั้นมีศักยภาพในการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ และอาจจะสามารถกลายเป็นส่วนสำคัญในการทำธุรกรรมระดับโลกในที่สุด แต่ก็ยังมีความเสี่ยงด้านระบบการจ่ายเงินแบบ gridlock ที่อาจจะส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างมาก

ทั้งนี้ จากภาพรวมในการพัฒนาของ Libra นั้นแสดงให้เห็นว่า โลกพร้อมสำหรับ Private Money (เงินที่ไม่ได้ออกโดยรัฐบาล) แล้ว แต่การปฏิบัติตามกฎระเบียบก็ยังเป็นเรื่องสำคัญที่ Stablecoins ต่าง ๆ ต้องปฏิบัติตาม และหากสามารถได้รับการยอมรับให้ใช้ชำระหนี้สินกับรัฐบาลกลางอย่างถูกกฏหมายได้นั้นจะเป็นก้าวที่สำคัญอย่างแน่นอน

จากรายงานระบุว่า “สำหรับความสำเร็จของ Stablecoin อย่างเช่น Libra นั้น จำเป็นจะต้องมีสภาพคล่องระยะสั้นที่สูง สินทรัพย์ที่นำมาใช่สำรองในการออกเหรียญนั้นต้องให้ผลตอบแทนเป็นบวก มีคุณสมบัติแบบกึ่งกระจายศูนย์ และสามารถเข้าถึงได้แบบกึ่งสาธารณะ” นอกจากนี้รายงานยังระบุด้วยว่าตลาดสกุลเงินดิจิทัลนั้น มีสัญญาณของการเติบโตขึ้นและมั่นคงมากขึ้นจากการเข้ามามีส่วนร่วมของเหล่าสถาบันต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง และยังมีเหล่าผู้ให้บริการซื้อขายแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลเกิดใหม่ขึ้นมากมาย 

นอกจากนี้ นักวิจัยยังชี้ให้เห็นว่า สินทรัพย์ดิจิทัลอย่างบิทคอยน์นั้นยังคงมีความผันผวนสูง และแม้บิทคอยน์จะสามารถแสดงมูลค่าที่แท้จริง (Intrinsic Value) ได้แล้ว แต่ยังขาดคุณค่าที่เด่นชัดในการเป็นสินทรัพย์ทางเลือกเพื่อกระจายการลงทุนของพอร์ต  

JP Morgan นั้นเป็นหนึ่งในธนาคารที่มีความเกี่ยวข้องกับการพัฒนาสินทรัพย์ด้านบล็อคเชนและคริปโตฯมายาวนาน โดยในเดือนมิถุนายน ปี 2019 ที่ผ่านมานาย Umar Farooq หัวหน้าฝ่าย Digital Treasury Services and Blockchain ของ JP Morgan กล่าวว่า ทางบริษัทมีความตั้งใจที่จะทดสอบสกุลเงินดิจิทัล JPM Coin กับลูกค้าบางรายในช่วงปลายปีที่แล้ว

โดยเมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา มีรายงานชี้ให้เห็นว่า JP Morgan กำลังพิจารณาที่จะควบรวมแผนกพัฒนาบล็อกเชนของตนเองเข้ากับ ConsenSys ซึ่งเป็นบริษัทที่มุ่งเน้นการพัฒนาบน Ethereum อีกด้วย

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง: Morgan Stanley สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ระดับโลก ประกาศเข้าซื้อกิจการ E*Trade Financial Group มูลค่ากว่า 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

Leave a comment

เกี่ยวกับ SuperCryptoNews

สื่อชั้นนำด้านบล็อกเชนและคริปโตในภูมิภาคเอเชีย นำเสนอข่าวสารด้านเทคโนโลยีและการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลอย่างรอบด้านและเจาะลึก ครอบคลุมทั้งภูมิภาคเอเชียเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะสิงคโปร์และประเทศไทย

สมัครรับข่าวสารจาก SCN