Hash Rate หรือกำลังการประมวลผลของผู้ขุดเหมืองบิทคอยน์พุ่งทำสถิติใหม่อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดค่า Hash Rate ได้ขึ้นไปแตะระดับสูงสุดที่ 142 Exahashes ต่อวินาที (EX/s) แล้วเมื่อวันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมานี้
Glassnode เว็บไซต์รวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์บล็อกเชนได้ทวีตกราฟดังกล่าวซึ่งแสดงให้เห็นว่า Hash Rate นั้นพุ่งทะลุจุดสูงสุดเดิมที่เคยเกิดขึ้นในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ขณะที่ราคา Bitcoin ในปัจจุบันอยู่ที่ระดับประมาณ 8,800 ดอลลาร์
โดยก่อนหน้านี้ ค่า Hash Rate ได้ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงกว่า 40% ภายในระยะเวลาสองสัปดาห์ โดยลดลงจากระดับ 123 EX/s จากจุดสูงสุดเดิมในวันที่ 8 มีนาคม มาอยู่ที่ 75 EX/s อันมีผลสืบเนื่องมาจากเหตุการณ์ Black Thursday ที่ทำให้ราคา Bitcoin และสินทรัพย์อื่น ๆ ปรับตัวลดลงมาอย่างหนักจากความกังวลเรื่องของโควิด-19ที่ระบาดไปทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ราคา Bitcoin มีการรีบาวนด์ขึ้นมาจากจุดต่ำสุดในรอบปีที่ 3,850 ดอลลาร์ขึ้นไปแตะ 9,400 ดอลลาร์ ค่า Hash Rate ก็ได้ปรับตัวขึ้นตามมากว่า 90% จนกระทั่งสร้างจุดสูงสุดใหม่อีกครั้งในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนเกิดการ Halving
นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ว่า การปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคา Bitcoin มีผลทำให้เครื่องขุด ASIC รุ่นเก่า ๆ กลับมาอยู่ในจุดคุ้มทุนและสามารถทำกำไรได้อีกครั้ง ส่งผลให้ค่า Hash Rate ของเน็ตเวิร์กปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน
Johnson Xu หัวหน้านักวิเคราะห์และวิจัยของ TokenInsight กล่าวว่าเครื่องขุดบิทคอยน์รุ่นเก่าอย่างรุ่น S9 น่าจะต้องถูกโละทิ้งหลังเกิดการ Halving โดยนาย Xu อธิบายว่าการเกิด Halving เป็นตัวช่วยปรับสมดุลให้กับวงการเหมืองขุดบิทคอยน์ที่จะต้องปรับปรุงระบบและประสิทธิภาพการขุดให้ดีขึ้น รวมไปถึงการใช้พลังงานหมุนเวียนต่าง ๆ เพื่อลดต้นทุน
“การเกิด Halving อาจส่งผลให้เกิดความโกลาหลในระยะสั้นต่อแวดวงนักขุด แต่เมื่อไรที่ค่า Difficulty เริ่มปรับตัวเองให้เกิดการสมดุล เราน่าจะได้เห็นเครือข่ายของ Bitcoin กลับมามีเสถียรภาพอีกครั้งได้อย่างรวดเร็ว” นาย Xu เสริม
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง : Bitcoin หรือ ทองคำ อะไรน่าลงทุนกว่ากันในสถานการณ์โควิด-19