SuperCryptoNews ได้รายงานไปก่อนหน้านี้ว่าสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ Goldman Sachs ได้จัดการประชุมออนไลน์ภายใต้หัวข้อ “สภาวะการณ์เศรษฐกิจสหรัฐฯ นโยบายเงินเฟ้อ ทองคำ และบิทคอยน์” ไปเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา แต่ล่าสุด มีภาพสไลด์หลุดออกมาหลังจากการประชุม เผยให้เห็นว่า Goldman Sachs นั้นมองบิทคอยน์และเงินคริปโตฯในแง่ลบ รวมถึงกล่าวว่ามันไม่ใช่สินทรัพย์และไม่ควรเข้าไปลงทุน
ทางธนาคารได้ลิสต์เหตุผลออกมาเป็นข้อ ๆ ว่าทำไมบิทคอยน์และคริปโตฯนั้นไม่ถือเป็นสินทรัพย์ที่แท้จริง ไม่ว่าจะเป็นการที่คริปโตฯนั้นไม่ก่อให้เกิดกระแสเงินสด (Cash Flow) ไม่มีการเติบโตอะไรที่ข้องเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ไม่ช่วยในเรื่องของการกระจายความเสี่ยง มีความผันผวนที่สูง โดยยกตัวอย่างถึงวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมาที่บิทคอยน์ร่วงลง 37% ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง และไม่มีหลักฐานที่ว่าบิทคอยน์เป็นตัวค้ำประกันความเสี่ยงต่อเหตุการณ์เงินเฟ้อแต่อย่างใด
นอกจากนี้ทาง Goldman Sachs ยังระบุอีกว่า คริปโตเคอเรนซี่นั้นไม่มีมูลค่าในตัวเอง และราคาจะขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีคนอื่นต้องการจะเข้าซื้อในราคาที่สูงกว่าเท่านั้น จึงไม่แนะนำให้ลูกค้าเข้าไปลงทุนจากความไม่ยั่งยืนของมัน
ทางธนาคารยังพยายามโจมตีความเชื่อที่ว่าบิทคอยน์นั้นมีอยู่อย่างจำกัด โดยยกตัวอย่างถึงเหรียญ Hard Fork ต่าง ๆ เช่น Bitcoin Cash (BCH) และ Bitcoin Satoshi’s Vision (BSV) ที่เป็นหลักฐานว่าการสร้างบิทคอยน์ใหม่นั้นทำได้ง่าย ๆ เพียงก๊อปปี้โค้ดและ Hard Fork ออกมาจากบิทคอยน์
ยังมีการโจมตีว่าเงินคริปโตฯนั้นเป็นแหล่งมั่วสุมของกิจกรรมที่ผิดกฎหมายไม่ว่าจะเป็นแชร์ลูกโซ่อย่าง Plustoken ไวรัสเรียกค่าไถ่ (Ransomware) การฟอกเงิน และตลาดมืดบนโลกออนไลน์อีกด้วย
ทางชุมชนคนรักคริปโตฯก็ได้ออกมาตอบโต้ว่าทาง Goldman Sachs กำลังปั้นน้ำเป็นตัว พูดในเรื่องที่ตัวเองไม่รู้ดี โดยนาย Tyler Winklevoss มหาเศรษฐีเจ้าของเว็บเทรด Gemini ได้ออกมาให้ความเห็นผ่านทางทวิตเตอร์ว่า “Goldman Sachs อ้างว่าบิทคอยน์มูลค่ากว่า 2.8 พันล้านดอลลาร์ถูกใช้โดยเหล่าอาชญากรในปี 2019 แต่ทำไมไม่พูดถึงคดี 1MDB ของมาเลเซียที่ทาง Goldman มีส่วนรู้เห็นในการฟอกเงินถึง 6 พันล้านดอลลาร์ในช่วงปี 2012 – 2013 บ้างหละ? นี่มันสองมาตรฐานชัด ๆ”
แม้บิทคอยน์จะมีความผันผวนที่รุนแรงเมื่อเทียบกับสินทรัพย์อื่น ๆ แต่เมื่อช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาเราก็ได้เห็นว่าทั้งทองคำ หุ้น และน้ำมัน ก็ผันผวนอย่างรุนแรงไม่ต่างจากบิทคอยน์ โดยเฉพาะน้ำมันดิบที่ผันผวนรุนแรงแซงหน้าบิทคอยน์แถมราคาฟิวเจอร์สยังร่วงลงไปติดลบเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์อีกด้วย
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง: บิทคอยน์ทำลายโลก? โอนหนึ่งครั้งเสียไฟเท่ากับบ้านหนึ่งหลังใช้ถึง 18 วัน