eToro ยักษ์ใหญ่ด้าน Social Trading ร่วมมือกับสตาร์ทอัพด้านการวิเคราะห์ตลาดการเงิน The Tie เปิดเผยบทวิเคราะห์ ว่าจำนวนข้อความและยูสเซอร์ที่พูดคุยถึงเหรียญ XRP บนทวิตเตอร์น้อยลง 16% ในไตรมาสแรกของปีนี้ ขณะเดียวกันจำนวนของ “กองทัพ XRP” หรือเหล่าแฟนพันธ์แท้ของเหรียญดังกล่าวมีจำนวนลดลงกว่า 82% นับตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2018
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ XRP สูญเสียผู้สนับสนุนบนโลกออนไลน์ จำนวนสมาชิกในกลุ่มเทเลแกรม @Ripple ได้ลดลงกว่า 63% นับตั้งแต่เดือนมิถุนายนปี 2018
แม้ไม่อาจจะชี้ชัดได้ว่าความเคลื่อนไหวและปริมาณการสนทนาบนโซเชียลมีเดียมีผลโดยตรงกับราคาของเงินคริปโตฯ แต่งานวิจัยของ The Tie ได้แสดงค่าความสัมพันธ์ระหว่างราคา XRP กับจำนวนผู้ใช้บนทวิตเตอร์ที่มีการกล่าวถึงเหรียญ XRP นั้นมีการเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกัน
เส้นสีฟ้า: จำนวนผู้ใช้ที่มีการพูดถึง XRP | เส้นสีแดง: ราคา
นับตั้งแต่ที่ XRP ขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดที่ราคา 2.28 ดอลลาร์ในช่วงสิ้นปี 2017 ราคาได้เป็นขาลงมาอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด(21 เมษายน 2020) ราคาของมันอยู่ที่ระดับ 0.18 ดอลลาร์เท่านั้น และช่วงนี้เราก็ไม่ได้เห็นคนออกมาเชียร์เหรียญ XRP มากเท่าไหร่นัก
นอกจากนี้ ในช่วงกลางเดือนมีนาคมที่ตลาดคริปโตฯถูกเทขายอย่างหนัก XRP ได้ถูกเหรียญ ChainLink แซงหน้าในด้านวอลุ่มซื้อขายรายวันไปชั่วคราว ทำให้สถานะเงินคริปโตฯที่มีมาร์เกตแคปใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสามต้องสั่นคลอนไม่น้อย
การที่บริษัท Ripple เจ้าของเหรียญ XRP ได้ทำการเทขายเหรียญออกมาเรื่อย ๆ เพื่อที่จะรักษากระแสเงินสดของบริษัทให้เป็นบวก เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ XRP ขึ้นแท่นเหรียญ Altcoin ที่สร้างผลงานได้แย่ที่สุดในปี 2019 และก็ดูไม่สดใสเท่าไหร่นักในปี 2020 นี้
โดยไตรมาสสี่ปีที่แล้ว Ripple ได้ทำการขายเหรียญออกมาเป็นมูลค่ากว่า 13 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ไตรมาสสามของปีที่แล้ว มี XRP ถูกขายออกมาถึง 250 ล้านดอลลาร์เลยทีเดียว
XRP ยังมีอีกปัจจัยที่กดดันราคาเหรียญคือคดีฟ้องร้องนาย Brad Garlinghouse ซีอีโอของ Ripple ในศาลนครนิวยอร์ค จากคดีเสนอขายโทเคนให้กับนักลงทุนโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งตัวเขาเองก็ได้ทยอยขายเหรียญ XRP ออกมาอย่างเงียบ ๆ
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง : XRP ตกกระป๋องหลังโดน ChainLink แซงหน้าในแง่วอลุ่มซื้อขาย