- DeFi ได้ขยับจังหวะควบคู่ไปกับราคาของสกุลเงินดิจทัลที่ลดลงทั่วไป
- โทเค็น DeFi มีความอ่อนไหวเป็นพิเศษเนื่องจากอัตราผลตอบแทนสูงจะไม่ยั่งยืนอีกต่อไปเมื่อความต้องการเก็งกำไรลดลง และ DeFi จะต้องพัฒนาแอปพลิเคชันนอกเหนือจากการยืมและให้กู้ยืมเพื่อเก็งกำไรในคริปโตเคอร์เรนซีอื่น ๆ
ถือเป็นการค้าที่ร้อนแรงที่สุดในฤดูร้อนปีที่แล้ว – การเงินแบบกระจายอำนาจหรือ DeFi สามารถคว้าชัยชนะเหนือผู้ค้าและสร้างรายได้นับล้านสำหรับบรรดานักลงทุน
ข้อเสนอด้านคุณค่าอย่าง ความสามารถในการเข้าถึงบริการทางการเงินโดยไม่ต้องใช้ตัวกลางที่เชื่อถือได้ รหัสสัญญาอัจฉริยะ บวกกับความปลอดภัยของการไม่เปลี่ยนรูปของบล็อกเชน ที่จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถยืม ให้ยืม ซื้อขาย และประกัน โดยทั้งหมดนี้ไม่มีอุปสรรคในการเข้าหรือออก ช่างมีความเย้ายวน
ทว่า DeFi ก็ไม่ได้เป็นข้อยกเว้นจากการพ่ายแพ้ล่าสุดในตลาดสกุลเงินดิจิตอลโดยทั่วไป
แน่นอนว่าส่วนหนึ่งเกี่ยวข้องกับกลไกตลาด
ทั้งนี้ ในช่วงเวลาที่คริปโตเคอร์เรนซีพุ่งขึ้นนั้น DeFi ได้ประโยชน์เพราะช่วยอำนวยความสะดวกในการเก็งกำไรอีกชั้นหนึ่ง เช่น ความเป็นไปได้ที่จะยืม แลกเปลี่ยน และคืนเงินกู้ทั้งหมดภายในบล็อกเดียว ทำให้ผู้ค้าสามารถลงทุนเดิมพันได้โดยไม่ต้องมีสกินใดๆ ในเกม
แต่ตอนนี้ราคาของคริปโตเคอร์เรนซีลดลงทั่วกระดาน เช่นเดียวกันกับจำนวนผู้ใช้ DeFi รายใหม่ที่ต้องการเก็งกำไรก็ลดลงอย่างมากเช่นกัน โดยแตะระดับต่ำสุดในรอบหลายเดือน
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีผู้ใช้ใหม่เพียงไม่กี่พันรายที่เข้าสู่ระบบ ลดลงจากเกือบ 40,000 รายในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม
และนั่นสามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นตัวหน่วงสำหรับผลตอบแทนสามหลักบางส่วนที่โปรโตคอล DeFi กำลังโน้มน้าวใจ
โดยแอพ DeFi จำนวนมากช่วยให้ผู้ใช้ยืมเงินดิจิทัลและรับดอกเบี้ย มักจะอยู่ในรูปแบบของโทเค็นของโครงการ
อย่างไรก็ตาม ถ้าจำนวนผู้กู้ลดลง อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จะลดลง และความกดดันในการขายโทเค็นที่มีอยู่ที่ได้รับผลตอบแทนเป็น SushiSwap หรือโทเค็นแบบผสม จะเพิ่มขึ้น จนนำไปสู่สถานการณ์ที่เลวร้ายชนิดเคราะห์ซ้ำกรรมซัด
ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทน DeFi เป็นหน้าที่ของผู้ซื้อรายใหม่ที่สนับสนุนราคาโทเค็น เนื่องจากผลตอบแทนที่แท้จริงที่ผู้ให้กู้สกุลเงินดิจิทัลได้รับนั้นพิจารณาจากอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างโทเค็นผลตอบแทนที่จ่ายออกไป และสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ เช่น Ether หรือstablecoinเงินสกุลดอลลาร์
แม้ว่า DeFi จะไม่หายไป แต่จำเป็นต้องพัฒนากรณีการใช้งานใหม่บางอย่างนอกเหนือจากการเก็งกำไรและในระยะเวลาอันใกล้ ผู้ถือโทเค็นมีแนวโน้มที่จะประสบปัญหา
จำนวนเงินที่ถูกล็อคในแอปพลิเคชัน DeFi ลดลงประมาณ 40% เรียบร้อยแล้ว แม้ว่าการลดลงส่วนใหญ่นั้นอาจเป็นผลมาจากการปรับฐานของราคาสกุลเงินดิจิตอลล่าสุดก็ตาม