fbpx
Skip to content Skip to sidebar Skip to footer

Criag Wright งานเข้า ศาลสั่งให้หา 1.1 ล้านบิทคอยน์มาโชว์ภายในวันพรุ่งนี้!

ภาพจากเว็บไซต์: https://craigwright.net/

มหากาพย์ดราม่าของนาย Craig Wright ผู้สถาปนาตนเองขึ้นเป็น Satoshi Nakamoto หรือผู้สร้างบิทคอยน์ กับนาย Dave Kleiman ผู้ล่วงลับยังไม่จบง่าย ๆ หลังจากผู้พิพากษาศาลสหรัฐฯ Beth Bloom สั่งให้นาย Wright นำหลักฐานว่าเขามีบิทคอยน์จำนวน 1.1 ล้าน BTC มายืนยันว่าเขาเป็นผู้สร้างบิทคอยน์ตัวจริง

โดยคำสั่งศาลดังกล่าวสั่งให้นาย Wright ต้องนำหาเอกสารที่ยืนยันได้ว่าเป็นของจริงกว่า 11,000 ฉบับ รวมไปถึง Address ของกระเป๋าเงินบิทคอยน์ที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเขาเป็นเจ้าของมาเสนอต่อศาลภายในวันที่ 17 เมษายน ที่จะถึงนี้

แม้ก่อนหน้านี้ ผู้พิพากษา Reinhart จะเคยสั่งให้นาย Wright นำบิทคอยน์ของเขาทั้งหมดมาแสดงภายในวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา แต่นาย Wright ก็ได้คัดค้านคำสั่งโดยอ้างว่ามันขัดต่อเอกสิทธิ์ทางความลับระหว่างทนายกับลูกความและเกี่ยวข้องกับการรักษาความลับทางธุรกิจของเขากับอีก 17 บริษัทที่เขาเกี่ยวข้องด้วย นอกจากนี้เขายังกล่าวหาว่าศาลทำผิดพลาดและไม่ตรงตามกฎหมาย และขอให้ผู้พิพากษากลับคำตัดสิน

โดยผู้พิพากษา Beth Bloom ได้ปัดคำร้องของนาย Wright ตกไปและเห็นว่าคำสั่งของผู้พิพากษา Reinhart นั้นถูกต้องแล้ว โดยเมื่อพิจารณาจากประวัติของจำเลยที่เคยมีการโกหกและปลอมแปลงเอกสาร มันเป็นการสมควรที่ศาลจะขอให้จำเลยนำเอกสารที่พิสูจน์ได้ว่าเป็นของจริงมาแสดงเพิ่มเติม

คดีความระหว่างนาย Wright และครอบครัวของนาย Kleiman นี้ดำเนินมาตั้งแต่ปี 2018 จากการที่นาย Craig Wright อ้างตัวว่าเป็น Satoshi Nakamoto ทางครอบครัวของนาย Kleiman จึงทำการฟ้องร้องทวงสิทธิครึ่งหนึ่งของบิทคอยน์ที่ทั้งคู่ (Kleiman และ Satoshi) ทำการขุดด้วยกันในช่วงแรกของการสร้างบิทคอยน์ ซึ่งหากนาย Wright ยังยืนยันว่าเขาเป็นผู้สร้างบิทคอยน์จริง ก็จำต้องหาบิทคอยน์จำนวน 500,000 BTC หรือมูลค่าปัจจุบันกว่า 1 แสนล้านบาท มาคืนให้แก่ครอบครัวของนาย Kleiman นั่นเอง

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง: Craig Wright: ประเด็นเรื่อง Tulip Trust และผู้ถือกุญแจที่ยังค้างคา

Leave a comment

เกี่ยวกับ SuperCryptoNews

สื่อชั้นนำด้านบล็อกเชนและคริปโตในภูมิภาคเอเชีย นำเสนอข่าวสารด้านเทคโนโลยีและการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลอย่างรอบด้านและเจาะลึก ครอบคลุมทั้งภูมิภาคเอเชียเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะสิงคโปร์และประเทศไทย

สมัครรับข่าวสารจาก SCN