เว็บเทรดเงินดิจิทัลรายใหญ่ของสหรัฐฯอย่าง Coinbase ได้เปิดเผยข้อมูลว่า ในระหว่างช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ณ ขณะนี้ ได้ทำให้ บิทคอยน์ เป็นสินทรัพย์การลงทุนที่ดีกว่า ทองคำ โดยมีข้อได้เปรียบหลาย ๆ ด้าน
ขณะที่ทองคำซึ่งมีคุณค่าในตัวเองฐานะที่เป็นตัวเก็บรักษามูลค่า (Store of Value) และเป็นสินทรัพย์ที่ซื้อขายกันได้ทั่วโลกเช่นเดียวกับบิทคอยน์ แต่ทองคำเสียเปรียบตรงที่เป็นสินทรัพย์ที่จับต้องได้ทำให้เกิดปัญหาด้านการขนส่งในช่วงที่เกิดโรคระบาดหรือเหตุการณ์ไม่ปรกติอื่น ๆ นี่จึงเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้บิทคอยน์ได้เปรียบเหนือทองคำ เพราะบิทคอยน์ไม่ต้องพึ่งพาระบบห่วงโซ่อุปทานในการส่งมอบสินค้าจริง เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่อยู่ในรูปแบบดิจิทัลและสามารถโอนถ่ายหากันได้ทุกเวลาโดยไม่มีข้อจำกัด
Coinbase แสดงหลักฐานให้เห็นว่าการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานและการขนส่งนั้นทำให้ราคาทองคำในแต่ละตลาดแตกต่างกัน เนื่องจากบางประเทศขาดแคลนทองคำเพื่อใช้ในการส่งมอบจริง
จากภาพแสดงให้เห็นส่วนต่างของราคาทองคำประมาณ 4.5% ระหว่างตลาดซื้อขายทองคำในตลาดนิวยอร์คและลอนดอน อันเป็นผลมาจากการขาดแคลนทองคำแท่งเพื่อการส่งมอบหลังการซื้อขายในตลาดซื้อขายล่วงหน้านั่นเอง
รายงานยังระบุอีกว่า เหมืองทองคำในเมืองเพิร์ธทางตะวันตกของประเทศออสเตรเลียได้เพิ่มกำลังการผลิตทองคำแท่งเพื่อรองรับกับความต้องการที่พุ่งสูงขึ้น โดยได้ทำการส่งมอบทองคำแท่งหนัก 1 กิโลกรัมกว่า 11,000 แท่งไปยังนครนิวยอร์คเมื่อเร็ว ๆ นี้
Coinbase ชี้ให้เห็นว่า ขณะที่การอุตสาหกรรมเหมืองทองและห่วงโซ่อุปทานของทองคำต่างชะงักงันจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่บิทคอยน์นั้นยังคงเดินหน้าต่อได้ตามจุดมุ่งหมายที่มันถูกสร้างขึ้น โดยอัตรา Hash Rate ของบิทคอยน์ยังได้เพิ่มขึ้นจนสร้างจุดสูงสุดใหม่ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาอีกด้วย
รายงานยังยืนยันว่า บิทคอยน์นั้นเป็นสิ่งที่หายากเช่นเดียวกับทองคำแต่มีคุณสมบัติในการโอนถ่ายหากัน (Salability Across Space) ที่ดีกว่าทองคำมาก อัตราการเฟ้อของบิทคอยน์ ณ ปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 3.6% ต่อปีและจะลดลงเหลือ 1.7% หลังการ Halving ในวันที่ 12 พฤษภาคมนี้ ซึ่งจะทำให้อัตราเฟ้อของบิทคอยน์อยู่ที่ระดับใกล้เคียงกับทองคำนั่นเอง และหลังจากการ Halving ครั้งหน้าในปี 2024 คาดว่าอัตราการเฟ้อของบิทคอยน์จะอยู่ที่ระดับ 0.8% ต่อปีเท่านั้น
นอกจากนี้ ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีของบิทคอยน์ (YTD) อยู่ที่ระดับ 20% ซึ่งขึ้นมาแซงหน้าทองคำที่สร้างผลตอบแทนได้ 12% ขณะที่ดัชนี S&P500 ยังติดลบอยู่ 10%
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง : บทวิเคราะห์ Bloomberg ชี้ บิทคอยน์กำลังพัฒนาเป็นทองคำดิจิทัล