CB Insights บริษัทด้านการวิจัยจากนิวยอร์ค เปิดเผยรายงานที่แสดงให้เห็นว่าสตาร์ทอัพสัญชาติจีนมีแนวโน้มที่จะเพิ่มการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีบล็อกเชนมากขึ้นและกำลังเขยิบเข้ามาใกล้เคียงสหรัฐฯไปทุกทีแล้ว
รายงานฉบับดังกล่าวมีชื่อว่า The Blockchain Report 2020 ถูกนำเสนอออกมาในเดือนมีนาคม ระบุว่า ในปี 2015 การลงทุนจากบริษัทสัญชาติสหรัฐฯถือว่ามีส่วนร่วมการเติบโตในภาคอุตสาหกรรมบล็อกเชนถึง 51% ในขณะที่ฝั่งประเทศจีนมีเพียงแค่ 2% เท่านั้น
แต่ในปี 2019 ตัวเลขนี้ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก โดยบริษัทสัญชาติสหรัฐฯมีสัดส่วนเหลือเพียง 31% ขณะที่การลงทุนจากบริษัทสัญชาติจีนเติบโตขึ้นมาอยู่ที่ 22%
นาย Tomer Weiss ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานฝ่ายความร่วมมือของ Upright ได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า
“เห็นได้ชัดว่า หลังจากที่ประธานาธิบดีดีสีจิ้นผงของจีนได้ประกาศให้บล็อกเชนเป็นวาระแห่งชาติ บริษัทในประเทศจีนต่างตื่นตัวและมองเห็นศักยภาพของเทคโนโลยีบล็อกเชนว่าในการนำไปติดตามและสำรวจข้อมูลเชิงลึกของกิจกรรมทางการเงินของบริษัทและบุคคลทั่วไป อันส่งผลให้เกิดการลงทุนในเทคโนโลยีนี้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง”
การประกาศของผู้นำจีนเกิดขึ้นในเดือนตุลาคม 2019 หลังการประชุมใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์ ที่ประกาศให้จีนมุ่งพัฒนาบล็อกเชนและเปิดรับมาใช้ในการเร่งการเติบโตของอุตสาหกรรมต่าง ๆ
จีนยังไม่สนใจประเด็น Defi และการระดมทุน
อย่างไรก็ตาม นาย Weiss ได้กล่าวว่า การลงทุนในบล็อกเชนของจีนยังเป็นการลงทุนผ่านบริษัทเอกชนและหน่วยงานโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ มีเพียงเม็ดเงินส่วนน้อยเท่านั้นที่ไปลงทุนในเทคโนโลยีใหม่อย่าง DeFi เขาให้ความเห็นอีกว่า เหล่านักลงทุนยังมองว่าไม่ใช่เวลาที่จะฝากอนาคตเงินลงทุนไว้กับเหล่า DApps, Wallets และ DeFi โดยกฎระเบียบที่ยังไม่ชัดเจนนั้นดูเหมือนจะเป็นเหตุผลสำคัญ
CB Insights ยังรายงานอีกว่า บิทคอยน์ยังถือเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง และไม่เหมาะกับการนำมาเป็นตัวเก็บมูลค่าหรือ Store-of-Value แต่แม้ราคาของตลาดคริปโตฯจะตกต่ำในช่วงเดือนที่ผ่านมา ทางบริษัทยังยืนยันว่าจะมุ่งทำรายงานและให้ข้อมูลเพื่อประโยชน์แก่การพัฒนาเทคโนโลยีบล็อกเชนให้แข็งแกร่งมากขึ้น
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง : Decentralized Finance เทคโนโลยีที่จะมาแทนที่ธนาคาร?