สกุลเงินดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นบิทคอยน์รวมถึงหยวนดิจิทัลและลิบรา จะเป็นกลไกสำคัญของสังคมไร้เงินสดที่จะเกิดขึ้นอย่างเต็มตัวในไม่ช้านี้อย่างแน่นอน
เงินดิจิทัล เร่งการเติบโตทางเศรษฐกิจด้วยการทำให้เกิดการหมุนเวียนของเงินที่เร็วขึ้นหรือ Money Velocity จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายทางเศรษฐกิจ
ปีนี้ถือเป็นปีที่น่าตื่นเต้นสำหรับวงการคริปโตและ เงินดิจิทัล เริ่มตั้งแต่การเกิด Bitcoin Halving อีกครั้งในรอบสี่ปี การเกิดขึ้นของสกุลเงินหยวนดิจิทัลหรือ DCEP รวมถึงสกุลเงิน Libra ของ Facebook ที่ถอยกลับไปตั้งหลักใหม่และมีกำหนดการจะเปิดตัวให้ได้ภายในสิ้นปีนี้
บิทคอยน์ ที่มีคุณลักษณะของการเป็น Store of Value เช่นเดียวกับทองคำจึงมีโอกาสที่จะเป็นขาขึ้นในช่วงหลังจากนี้ได้เช่นกัน พร้อม Bitcoin Halving
นาทีนี้ถือว่าเป็นโอกาสดีที่ หยวนดิจิทัล จะเป็น CBDC แรกของโลกที่ออกมาจากธนาคารกลางและน่าจะช่วยให้จีนสามารถครองความเป็นผู้นำในสกุลเงินดิจิทัลของโลกได้ทีเดียว
ทุกคนรู้จัก Bitcoin ในฐานะเงินดิจิทัลสกุลแรกของโลกที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับหนึ่งมาตลอดสิบกว่าปีที่ผ่านมา แต่ในช่วงหลัง ๆ ก็ได้มีเหรียญทางเลือกหรือ Altcoins ที่น่าสนใจออกมาให้เลือกลงทุนจำนวนมาก
การแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 ทั่วโลก ทำให้เกิด New Normal หลายเรื่อง หนึ่งในนั้นคือการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมมาใช้การชำระเงินออนไลน์รวมถึงสกุล เงินดิจิตอล
คงต้องยอมรับว่าปี 2020 นี้เริ่มต้นมาได้ไม่สวยงามซักเท่าไหร่ ด้วยปัญหาทั้งด้านการระบาดของไวรัสโควิด 19 ที่ไม่มีทีท่าว่าจะบรรเทาลงในเร็ววัน
หากลงทุนตามดัชนี SCN30 ตั้งแต่ต้นปีจนถึงสิ้นไตรมาสแรกจะสามารถรักษาพอร์ตการลงทุนไม่ให้ติดลบได้ ซึ่งยังให้รีเทิร์นที่ดีกว่า BTC ที่ -12% ตั้งแต่ต้นปี
เงินดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นสกุลเงินหลักของโลกยังคงเป็นที่พึ่งในภาวะวิกฤต ขณะที่ บิทคอยน์ แม้ถูกหมายมั่นว่าจะเป็นสกุลเงินใหม่ของโลกที่มาแทนเงินกระดาษแบบเดิม ๆ กลับมีความต้องการที่น้อยกว่า