ในขณะที่กองทุนป้องกันความเสี่ยงและนักลงทุนสถาบันรายใหญ่อื่นๆ ที่มีละติจูดที่สำคัญในการตัดสินใจลงทุนของพวกเขาเป็นอันดับแรก สถาบันการเงินที่มีประวัติดีที่สุดบางแห่งกำลังมองหาวิธีที่พวกเขาสามารถมีส่วนร่วมในการดำเนินการ
Fidelity ยักษ์ใหญ่แห่ง Wall Street ออกโรงแนะประเทศอื่น ๆ ว่าควรปฏิบัติตามผู้นำของเอลซัลวาดอร์และกว้านซื้อบิทคอยน์ในขณะที่ราคาต่ำ
ด้วยราคาบิทคอยน์ที่ดูเหมือนจะมีเสถียรภาพมากขึ้น ทำให้กลงทุนบางคนจะสงสัยว่าตอนนี้ใช่เวลาที่จะลุยกลับเข้าไปในคริปโตเคอร์เรนซีโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมี upside เข้ามามากขึ้น
ผู้ใช้กระเป๋าเงิน หรือ วอลเล็ท บิทคอยน์จำนวนมากต่างหันมาถือครองบิทคอยน์กันมากขึ้น ดังนั้นผู้ค้าจำนวนเล็กน้อยที่ตอบสนองต่อปัจจัยมหภาคจึงมีอิทธิพลเกินปกติต่อความผันผวนของราคาบิทคอยน์
ราว 57 % ของบิทคอยน์ที่หมุนเวียนอยู่ในระบบในปัจจุบัน ไม่ได้มีความเคลื่อนไหวมานานกว่าหนึ่งปีแล้ว นับเป็นสัญญาณของการถือครองระยะยาว
นักวิเคราะห์บางคนมองว่าการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วของราคาบิทคอยน์นั้นเป็นผลมาจากข้อมูลดัชนี CPI ของสหรัฐฯ และบทบาทของสกุลเงินดิจิทัลในการป้องกันความเสี่ยงต่อเงินเฟ้อ
ธนาคารกลางสหรัฐฯ กับบรรดาหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินอื่นๆ ก็เคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า Stablecoins จำเป็นต้องมีกฎระเบียบเพิ่มเติมและควรออกโดยธนาคาร
ค่าเงินดิจิตอลมาตรฐานลดลงประมาณ 14% ในปีนี้ (ในขณะที่เขียน) และในขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กลายเป็นคนขี้โกง ความผันผวนมากยิ่งขึ้นสามารถคาดหวังได้
ลิสต์รายการของผู้ท้าชิงที่อีเธอร์เรียมต้องท้าทายเพื่อครอบงำตลาด DeFi รวมถึงการใช้งานในสัญญาอัจฉริยะหรือ smart contracts ค่อนข้างยาว
เหล่าเทรดเดอร์ต่างพักอยู่ข้างตลาด โดยยังคงมีการเข้าซื้อเพื่อพยุงราคาไว้ที่ 40,000 ดอลลาร์สหรัฐ เหมือนเดิมในขณะนี้ กระนั้นก็ยังไม่มีตัวเร่งใดๆ ที่จะกระตุ้นให้ราคาของสกุลเงินดิจิทัลปรับตัวขึ้นมาได้