หุ้นพลังงานหมุนเวียนเป็นหนึ่งในกลุ่มที่สามารถทำกำไรได้ในตลาดที่กำลังมีความผันผวน นับตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครน

แม้ว่านักลงทุนสถาบันจำนวนมากจะเข้าสู่พื้นที่ของสกุลเงินดิจิทัล แต่ก็ยังมีความไม่เต็มใจจากหน่วยงานกำกับดูแลที่จะให้นักลงทุนรายย่อยเข้าถึงผลิตภัณฑ์เหล่านี้ได้

ราคาพลังงานน้ำมันที่เพิ่มเข้ามา รวมถึงตัวน้ำมันเองนั้นไม่จำเป็นต้องเป็นอัตราเงินเฟ้อระยะยาวเสมอไป โดยราคาที่สูงขึ้นอาจทำให้การบริโภคลดลงซึ่งอาจนำไปสู่ความต้องการสินค้าและบริการที่ลดลง

ประชาชนชาวรัสเซียกำลังใช้คริปโตเคอร์เรนซี เพื่อทำธุรกรรม เพราะในที่สุด แม้แต่ Visa และ Mastercard ก็ได้ออกจากตลาดรัสเซียเพื่อประท้วงการบุกรุกยูเครนแล้ว 

ราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้น และหุ้นปรับตัวลดลง ภัยคุกคามจากภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จึงเป็นเรื่องจริง หรืออย่างน้อยก็เป็นความจริงในใจของนักลงทุน

หลังราคาพุ่งขึ้นมากถึง 20 % จนแตะระดับที่ 45,000 ดอลลาร์ ในที่สุดมูลค่าของบิตคอยน์ก็ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 38,400 ดอลลาร์ ในขณะที่เขียนรายงาน ซึ่งลดใกล้ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

จากปริมาณการค้าระหว่างรัสเซียและยุโรป ส่งผลให้การบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรจากชาติตะวันตกมักมีความเสี่ยงที่กลายจะเป็นดาบสองคม แต่จนถึงตอนนี้ ดูเหมือนว่าผู้เข้าร่วมตลาดกำลังพยายามอย่างเต็มที่เพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดเงิน

การบุกโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดของยุโรปซึ่งตั้งอยู่ในยูเครนโดยกองกำลังของรัสเซียส่งผลให้ราคาบิตคอยน์ร่วงต่ำกว่า 40,000 ดอลลาร์สหรัฐ

เลือดนองตลาดวอลล์สตรีท เมื่อนักลงทุนรายย่อยกับนักลงทุนอาชีพสลับที่กัน  บรรดานักลงทุนรายย่อยพากันช้อนซื้อหุ้นขาลง ขณะที่เหล่านักลงทุนมืออาชีพกลับนั่งรอในรอบนี้