Bitcoin แซงทองคำขึ้นมาเป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนอันดับหนึ่งของปีนี้ โดยอยู่ที่ 20% แซงหน้าทองคำซึ่งปรับตัวขึ้น 12% และดัชนี S&P500 ยังติดลบ 10%
สภาพคล่องส่วนเกินและความมั่นใจของนักลงทุนก็ไหลเข้ามาสู่ตลาด Altcoins ด้วยเช่นกัน ดัชนี SCN30 ปรับตัวขึ้น 15% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อน
สัปดาห์นี้ถือเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญของเศรษฐกิจมหภาค เนื่องด้วยเหล่าธนาคารจากสหรัฐฯ ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรปกำลังจะประชุมหารือแนวทางของนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ
นับตั้งแต่ลงมาทำจุดต่ำสุดที่ 89 ราคา ETH เริ่มมีการยกตัวสูงขึ้นเรื่อยๆโดยไม่มีการทำนิวโลว์อีกถือเป็นสัญญาณที่ดี และยังสามารถยืนเหนือเส้น EMA89 และ 200 วันได้ บ่งบอกถึงแนวโน้มการเป็นขาขึ้นที่ชัดเจนของ ETH
ตลาดคริปโตฯขยับตัวอยู่ในลักษณะ Sideways ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้บิทคอยน์จะสามารถพุ่งทะลุแนวต้านสำคัญที่บริเวณ $7,000 ดอลลาร์ได้สำเร็จ แต่หลังจากที่ราคาสามารถขึ้นไปแตะ $7,400 แรงซื้อดูเหมือนจะแผ่วไปอย่างรวดเร็วจนทำให้ราคาร่วงกลับลงมาอีกครั้ง โดย ณ ขณะนี้บิทคอยน์มีราคาซื้อขายกันอยู่ที่บริเวณ $6,700 ดอลลาร์สหรัฐฯ
บิทคอยน์ ควรจะยืนเหนือระดับ 8,000 เหรียญ ซึ่งเป็นราคาก่อนที่จะเกิดการเทขายครั้งใหญ่ถึงจะยืนยันได้ว่าพร้อมจะปรับตัวเป็นขาขึ้นได้
ในช่วงเจ็ดวันที่ผ่านมา ตลาดคริปโตฯและบิทคอยน์ขยับตัวขึ้นลงในกรอบราคา 5,800 – 7,000 ดอลลาร์ และจบสัปดาห์ไปโดยที่ราคาแทบจะไม่เปลี่ยนแปลงจากตอนเริ่มเลย
ภาพทางเทคนิคของ บิทคอยน์ ยังคงความน่าจะเป็นในการเป็นขาขึ้นรอบใหญ่ได้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยพื้นฐานแล้วว่าจะสนับสนุนราคาบิทคอยน์ให้ไปได้ไกลเพียงใด
สัปดาห์ที่ผ่านมา Bitcoin ปล่อยของครั้งใหญ่ให้หลาย ๆ คนหงายหลังไปตาม ๆ กัน ปรับตัวลดลงมากกว่า 40% ในเวลาเพียงสองวัน ก่อนที่จะมีนักลงทุน(หรือนักเก็งกำไร)ผู้กล้า เข้าไปช้อนซื้อจนทำให้ราคากลับมายืนเหนือระดับ $5,000 ได้อีกครั้ง
เริ่มต้นสัปดาห์ได้ไม่สวยสำหรับตลาดเงินดิจิทัลเมื่อภาพรวมตลาดอยู่ในแดนลบทั้งหมด เช่นเดียวกับตลาดหุ้นและน้ำมัน ขณะที่ Safe Haven ของจริงอย่างทองคำยังสามารถวิ่งขึ้นต่อได้