รายงานล่าสุดที่จัดทำขึ้นโดยทีมวิจัยจาก ByteTree ได้ชี้ว่า โมเดล Stock-to-Flow (S2F) อันได้รับความนิยมอย่างมากในวงการคริปโตนั้นไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย
ราคาของบิทคอยน์ (BTC) นิ่งสนิท ส่งผลให้ค่าความผันผวนปรับตัวลดต่ำลงจากราคาที่ไม่ค่อยมีการเคลื่อนไหว และนี่เป็นสัญญานของพายุใหญ่ที่กำลังก่อตัวขึ้น
ผู้รับผิดชอบคดี Mt Gox มีแผนจะชดเชยบิทคอยน์จำนวน 140,000 BTC ให้แก่นักลงทุนในวันที่ 15 ตุลาคมนี้หลังถูกเลื่อนมาแล้วถึงสี่รอบ
โมเดล S2F อันโด่งดังของ PlanB ที่คำนวนราคาบิทคอยน์จากอัตราการเฟ้อถือเป็นหนึ่งในโมเดลทำนายราคาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในวงการคริปโตเคอเรนซี่
ล่าสุดมีข่าวช็อกโลกออกมาเมื่อประธานาธิบดีสหรัฐฯนายโดนัลด์ ทรัมป์ได้ทวีตประกาศว่าเขาและภรรยาติดเชื้อโควิด-19 แล้ว ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวลงทันที
ช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมามีบิทคอยน์ถูกกว้านซื้อไปจากเว็บเทรดหรือ Exchange ต่าง ๆ ทั่วโลกจนซัพพลายหายไปถึง 5 พันล้านดอลลาร์หรือประมาณ 150,000 ล้านบาท!
มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์เผยว่า จำนวนผู้ใช้คริปโตเคอเรนซีทั่วโลกเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่านับตั้งแต่ปี 2018 ที่มีผู้ใช้ 35 ล้านรายจนมาแตะ 101 ล้านรายในไตรมาสที่สามของปี 2020 นี้
จำนวนผู้ใช้บิทคอยน์ พุ่งขึ้นสู่จุดสูงสุดตลอดกาล แซงหน้าจุดสูงสุดเก่าในช่วงพีคของตลาดเมื่อปลายปี 2017 ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วและความสัมพันธ์ทางด้านราคาของบิทคอยน์กับตลาดหุ้นสหรัฐฯก็ลดน้อยลงเรื่อย ๆ อีกด้วย
สำนักข่าว Xinhua และโทรทัศน์ CCTV ของจีนได้ทำการสร้างเสียงฮือฮาโดยชี้ว่าสินทรัพย์ดิจิทัลเหล่านี้เป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุดในปี 2020
แม้มีกระแสความกังวลจากการที่เว็บเทรด KuCoin ถูกแฮกและสัญญา Options ของบิทคอยน์มูลค่ากว่า 1 พันล้านดอลลาร์บน Deribit ที่หมดสัญญาไปเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา แต่ราคาของบิทคอยน์ยังคงนิ่ง