หลังจากที่เราได้เห็นราคาของบิทคอยน์และ สินค้า Commodity เช่นทองคำ เงิน และน้ำมันพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงสองถึงสามวันที่ผ่านมา อันเป็นผลจากสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐและอิหร่าน ส่งผลให้นักลงทุนเกิดความกังวลว่าจะเกิดสงคราม ทำให้นักลงทุนส่วนหนึ่งเลือกที่จะโยกย้ายการลงทุนไปสู่สินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยกว่า (Safe Haven Assets) และการที่เราได้เห็นราคาบิทคอยน์ปรับตัวเพิ่มขึ้นพร้อมๆกับทองคำนั้นสามารถสะท้อนให้เห็นว่า นักลงทุนบางส่วนมองบิทคอยน์เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่เหมาะแก่การเก็บทรัพย์สินในสภาวะเสี่ยง เช่น สงคราม หรือวิกฤตเศรษฐกิจเช่นกัน
Image Source: Twitter @sunnydecree
หลังจากบิทคอยน์พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงไปชนแนวต้านที่บริเวณ $8,500 เมื่อเช้าของวันที่ผ่านมาก็ได้ปรับตัวลงมาสะสมกำลังที่ราคา $8,300 ก่อนที่จะร่วงลงมาต่ำกว่าระดับ $8,000 หลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ออกมาแถลงเกี่ยวกับการโจมตีของอิหร่าน เป็นที่น่าสังเกตุว่าการปรับตัวลงมาของราคาบิทคอยน์นั้นสอดคล้องกันกับสินค้า Commodity อื่นๆเช่นทองคำและน้ำมันที่ตกลงมาในช่วงเวลาใกล้เคียงกันอย่างมีนัยยะสำคัญ
Image Source: Saul Loeb / APF
หลายฝ่ายมองว่าการแถลงของนายโดนัลด์ ทรัมป์นั้น แม้บางตอนอาจจะดูแข็งกร้าวและท้าทาย พร้อมทั้งแสดงความมั่นใจแสนยานุภาพของตนเองและไม่รีรอที่จะทำการกดดันโดยการคว่ำบาตร แต่ก็เปิดช่องให้อิหร่านก้าวออกมาเจรจา ทั้งยังกล่าวเน้นย้ำว่าสหรัฐและอิหร่านมีศัตรูคนเดียวกันคือกลุ่มก่อการร้าย ISIS และหากทั้งสองประเทศร่วมมือกันแล้ว มันจะส่งผลดีต่อทั้งตัวอิหร่านและเสถียรภาพในอนุภูมิภาคตะวันออกกลางมากกว่าการเปิดฉากทำสงครามกับตัวสหรัฐเอง ทั้งทางอิหร่านก็สงวนท่าทีและไม่ได้ออกมากล่าวถึงแผนการโจมตีครั้งถัดไปแต่อย่างใด
โดยมีรายงานข่าวบางส่วนออกมาอ้างว่าอิหร่านจงใจยิงพลาดเพื่อให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด ทั้งยังออกมาเตือนสหรัฐให้อพยพทหารออกจากฐานทัพก่อนการโจมตีอีกด้วย ท่าทีของทั้งสองฝ่ายที่ดูเหมือนพร้อมจะประณีประนอมช่วยบรรเทาความกังวลของนักลงทุน ส่งผลให้ตลาดหุ้นของสหรัฐปรับตัวไปในทางบวก สวนทางกับตลาดคริปโตที่กลับมาเป็นสีแดงอีกครั้งในช่วงค่ำที่ผ่านมา
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง : ราคาบิทคอยน์พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่หก ทะลุ 8,300 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบหลายอาทิตย์
