ตลาดคริปโตรวมถึงบิทคอยน์ยังคงเคลื่อนไหวแบบไร้ทิศทาง แม้จะไม่ได้ถูกเทขายอยางหนักแต่ราคาก็แทบไม่เพิ่มขึ้นเช่นกัน อย่างไรก็ตามภาพในระยะยาวของ BTC ยังคงเป็นแนวโน้มขาขึ้น ขณะที่ ETH แม้ผลตอบแทนในปีนี้จะทำได้ดีกว่า แต่ระยะยาวยังต้องพิสูจน์ตัวเองอีกนิดถึงจะบอกได้ว่าเป็นขาขึ้นในภาพใหญ่
จากกราฟ BTC หากมีการตีเทรนด์ไลน์จากจุดสูงสุด 20,000 ดอลลาร์ในปี 2018 จะเห็นได้ว่าการ Breakout เส้นเทรนด์ไลน์ขากดในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมปีนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่แสดงให้เห็นว่า BTC พร้อมที่จะกลับมาเป็นขาขึ้นในระยะยาว
แม้ว่าการปรับตัวขึ้นครังนั้นจะไม่สามารถผ่านจุดสูงสุดเดิมที่เกิดขึ้นในเดือนสิงหาคมปีที่แล้วที่ระดับ 12,500 ดอลลาร์ ไปได้และมีการปรับฐานลงมา แต่ยังคงประคองให้อยู่บนเส้นเทรนด์ไลน์เอาไว้ได้ บ่งบอกว่ายังมีความตั้งใจที่จะกลับมาเป็นขาขึ้น
แนวโน้มหลังจากนี้ BTC อาจจะยังเคลื่อนไหวแบบไซด์เวย์เพื่อมองหาจุดเปลี่ยนที่จะพลิกกลับมาเป็นขาขึ้นและมุ่งหน้าสู่การสร้างจุดสูงสุดใหม่ให้ได้ โดยเป้าหมายแรกที่จะต้องผ่านไปให้ได้คือ 12,500 ดอลลาร์ และหากสามารถผ่านระดับ 13,500 ดอลลาร์ไปได้ จะเป็นการแสดงความชัดเจนว่า BTC พร้อมจะไปทดสอบจุดสูงสุดเดิม 20,000 ดอลลาร์
บทความอื่นที่เกี่ยวข้อง : สื่อจีนตีข่าวคริปโตเคอเรนซี่คือหนึ่งในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุดในปี 2020
ขณะที่ ETH ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี (YTD) อยู่ที่ 177% โดดเด่นกว่าบิทคอยน์ แต่ภาพรวมในระยะยาวยังอยู่ในกรอบไซด์เวย์ใหญ่มาเป็นเวลากว่าสองปี โดยลงไปทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 70 ดอลลาร์ และมีการฟื้นตัวอย่างชัดเจนในปีนี้ โดยขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 485 ดอลลาร์ ก่อนจะถูกเทขาย
หาก ETH จะพลิกกลับมาเป็นขาขึ้นในภาพใหญ่จำเป็นที่จะต้องผ่านจุดสูงสุดเดิมในปีนี้ที่ 485 ดอลลาร์ไปให้ได้และต้องยืนเหนือระดับดังกล่าวให้ได้จะเป็นการยืนยันการหลุดพ้นแนวโน้มไซด์เวย์ที่ยาวนาน
การที่ราคาได้สะสมพลังมากว่าสองปี หากสามารถ Breakout ผ่านแนวต้านสำคัญไปได้อาจจะเป็นขาขึ้นที่มีแรงส่งที่สูง ซึ่งอาจจะไปได้ไกลถึงระดับ 825 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นอีกแนวต้านสำคัญ ซึ่งหากผ่านไปได้ก็ถึงค่อยพูดถึงการทดสอบจุดสูงสุดตลอดกาลที่ 1,400 ดอลลาร์
บทความอื่นที่เกี่ยวข้อง : ราคาบิทคอยน์นิ่งท่ามกลางดราม่า KuCoin ถูกแฮกและสัญญา Options 1 พันล้านดอลลาร์หมดอายุ