BlackRock หนึ่งในบริษัทบริหารกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้ลงทุนในบิทคอยน์ทางอ้อมผ่านบริษัทข่าวกรองทางด้านเศรษฐกิจ Micro Strategy ที่ได้เข้าถือบิทคอยน์เป็นสินทรัพย์สำรองมูลจำนวน 21,454 BTC หรือกว่า 250 ล้านดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ Micro Strategy มีมูลค่าธุรกิจ 1,200 ล้านดอลลาร์และมีผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับหนึ่งคือ BlackRock นั่นหมายความว่า BlackRock มีส่วนได้เสียกับบิทคอยน์มูลค่า 250 ล้านดอลลาร์ที่ Micro Strategy ถืออยู่ทางอ้อมนั่นเอง
นอกจากนี้ข้อมูลจาก CNN Business ยังเผยให้เห็นว่า BlackRock Fund Advisors ถือหุ้นของ Mircro Strategy มากเป็นอันดับหนึ่งที่ 15.24% ตามมาด้วย Vanguard บริษัทบริหารหลักทรัพย์ที่ใหญ่ไม่แพ้กันก็ถือหุ้นอยู่ถึง 11.72%
ก่อนหน้านี้ทาง Micro Strategy ได้ให้เหตุผลของการตัดสินใจเลือกบิทคอยน์มาเป็นสินทรัพย์สำรองอันดับต้นว่า “บิทคอยน์นั้นมีศักยภาพมากกว่าเงินสดมาก”
“นับตั้งแต่บิทคอยน์ถือกำเนิดขึ้นมาเป็นเวลาสิบกว่าปี มันได้กลายมาเป็นทางเลือกใหม่ของระบบการเงินโลกด้วยคุณลักษณะที่มีประโยชน์ต่อทั้งนักลงทุนทั่วไปและนักลงทุนสถาบัน Micro Strategy มองว่าบิทคอยน์เป็นสินทรัพย์ที่มีความน่าเชื่อถือและได้ตัดสินใจนำมันมาเป็นสินทรัพย์สำรองของบริษัท” นาย Michael J. Saylor ผู้เป็นซีอีโอกล่าว
ก่อนหน้านี้ Richard Turnill ซึ่งเป็นหัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนของ BlackRock ยังเคยกล่าวถึงบิทคอยน์ไว้ในปี 2018 ว่า
“สกุลเงินดิจิทัลมีศักยภาพในการนำมาใช้งานอย่างกว้างขวางในตลาดเมื่อถึงเวลาอันเหมาะสม แต่สำหรับในตอนนี้นั้น (ปี 2018) มันเหมาะแค่สำหรับคนที่ยอมรับความเสี่ยงได้สูงมาก ๆ เท่านั้น”
และเขาได้เสนอว่าการจัดทำกรอบการกำกับดูแลสกุลเงินดิจิทัลที่สอดคล้องกันในระดับโลกจะเป็นตัวช่วยให้สินทรัพย์ดิจิทัลสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคง
เราเห็นได้ว่าในช่วงปีที่ผ่านมานี้ มุมมองของนักลงทุนสถาบันรายใหญ่เกี่ยวกับบิทคอยน์และสินทรัพย์ดิจิทัลเริ่มเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ โดยธนาคารและนักลงทุนรายใหญ่หลาย ๆ แห่งที่เคยสบประมาทบิทคอยน์ไว้ต่างออกมากลับลำและแสดงความสนใจในการลงทุนในสินทรัพย์ชนิดใหม่นี้กันอย่างไม่ขาดสายเลยทีเดียว
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง : 5 เหตุผลที่จะดันบิทคอยน์กลับมาทำ All Time High