ในขณะที่เว็บเทรดเงินคริปโตฯหรือ Exchange ทั่วโลกต่างมุ่งตรงมายังสิงคโปร์เนื่องจากสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรต่อการทำธุรกิจ แต่ล่าสุด Exchange สัญชาติสิงคโปร์อย่าง Bitget กลับสวนกระแส และกำลังจะขยายกิจการออกไปในต่างประเทศ โดยพึ่งได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลทางด้านการเงินของสหรัฐฯ หรือ United States Financial Crimes Enforcement Network (FinCEN)
ใบอนุญาตที่ FinCEN ให้กับ Bitget ก็คือใบอนุญาตบริการทางการเงินสำหรับภาคธุรกิจ (Money Service Business License (MSB) โดยอนุญาตให้สามารถทำธุรกรรมทางการเงินและการแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศในสหรัฐอเมริกา โดยมีสำนักงานตั้งอยู่ในเมืองเดนเวอร์ รัฐโคโรราโด
Bitget จะเข้าไปแข่งขันกับ Exchange ระดับโลกอย่าง Coinbase ซึ่งมีฐานหลักอยู่ในสหรัฐอเมริการวมถึง Huobi จากประเทศจีนที่พึ่งขยายตลาดไปยังสหรัฐฯก่อนหน้านี้เช่นกัน
โฆษกของ Bitget ได้กล่าวว่านี่เป็นก้าวแรกของการเข้าสู่ตลาดในสหรัฐอเมริกา และอนาคตยังมีแผนที่จะยื่นขอไลเซนส์ทางการเงินอื่น ๆ โดยบริษัทฯมีแผนที่จะเข้าไปเปิดตลาดในทุกภูมิภาคเท่าที่จะเป็นไปได้ ตามยุทธศาสตร์การขึ้นมาเป็นผู้เล่นในระดับโลก
วอลุ่มเทรดแตะ 1,000 ล้านเหรียญ
ข้อมูลจาก Medium ของบริษัท Bitget เผยว่า บริษัทน้องใหม่นี้ก่อตั้งในสิงคโปร์ตั้งแต่ปี 2018 ปัจจุบันมีออฟฟิศอยู่ทั้งในญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ รวมถึงมีแพลตฟอร์มให้บริการในประเทศจีนและรัสเซียอีกด้วย
โฆษกของ Bitget ระบุว่า ปัจจุบันวอลุ่มเทรดของบริษัทมีวอลุ่มซื้อขายแตะระดับ 1,000 ล้านเหรียญต่อวัน ถือเป็นหนึ่งใน Exchange ที่มีปริมาณซื้อขายสูงสุดรายหนึ่งของโลก แม้จะยังไม่ได้ลิสต์อยู่บนกระดานข้อมูลตลาดคริปโตฯชื่อดังอย่าง Coin360 หรือ Coinmarketcap ก็ตาม โดยตลาดที่มีวอลุ่มสูงสุดคือประเทศจีน เกาหลีใต้ และสิงคโปร์ตามลำดับ
การเข้ามาบุกตลาดสหรัฐฯเป็นหนึ่งในแผนที่จะเข้าถึงตลาดอื่น ๆ ที่มีใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร เช่น ประเทศในแถบยุโรป แคนาดา รวมถึงอินเดียภายในปี 2020 นี้
ได้รับไลเซนส์ผู้ให้บริการชำระเงินจาก MAS สิงคโปร์
ในขณะที่มีกลยุทธ์เปิดตลาดทั่วโลก Bitget ยังได้ยื่นขอไลเซนส์จากหน่วยงานกำกับด้านการเงินของสิงคโปร์หรือ MAS อีกด้วย โดยเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการที่ได้รับการยกเว้นใบอนุญาตชั่วคราวภายใต้กฎหมาย Payment Service Act (PSA) โดยได้รับการประกาศยกเว้นจาก MAS ในวันที่ 24 มีนาคม ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ Bitget ยังได้รับอนุญาตให้บริการด้านโทเคนดิจิทัลเช่นเดียวกับบริษัทอย่าง Ripple, Coinbase และ Binance จากการประกาศของ MAS โดยกำลังอยู่ระหว่างการยื่นขอใบอนุญาตซึ่งคาดว่าจะเสร็จสิ้นในเดือนมิถุนายนหรือกรกฎาคมปีนี้
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง : รีวิว “บิทาซซ่า” Digital Asset Broker ที่จะพาคนไทยเข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัลระดับโลก