ทองคำในรูปแบบดิจิทัล
ก่อนหน้านี้ มีการแถลงข่าวจาก Tether ในการเปิดตัว “Tether Gold (XAUT)” เหรียญ Stablecoin ที่ผูกกับทองคำ โดย 1 XAUT จะเท่ากับทองคำจริง 1 ออนซ์ โดยเหรียญตัวใหม่นี้จะอยู่ในรูปของโทเค็น ERC-20 บนบล็อกเชนของ Ethereum รวมถึงโทเค็น TRC20 บน Tron (TRX) ซึ่งทองคำที่นำมาผูกกับเหรียญ XAUT นั้นจะถูกเก็บไว้ที่ห้องนิรภัยในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ โดยปัจจุบันเหรียญ XAUT มี Supply อยู่ถึงเกือบ 4,000 เหรียญ ซึ่งทางด้าน Bitfinex เว็บเทรดสกุลเงินดิจิตอลชื่อดัง ได้เปิดให้บริการซื้อขายเหรียญ XAUT ด้วยคู่เทรด (XAUT/USD) Tether (XAUT/USDT) และ Bitcoin (XAUT/BTC) โดยหนึ่งในสี่ของ Supply ที่เป็น ERC-20 ถูกย้ายไปที่ Bitfinex ซึ่งเป็นบริษัทในเครือเดียวกับ Tether
หลังจากที่ Tether ประกาศเปิดตัว “Tether Gold (XAUT)” และได้เปิดให้บริการซื้อขายบนเว็บเทรด Bitfinex ไปแล้วนั้น ต่อมาเมื่อวันที่ 30 มกราคม ที่ผ่านมา Tether Ltd. ได้เพิ่มบริการซื้อขายมาร์จิ้นสำหรับ Tether gold (XAUT) โดยมีคู่เทรด XAUT/USD, XAUT/USDT และ XAUT/BTC ด้วย Leverage สูงสุดถึง 5 เท่า ซึ่งทางด้านนาย Paolo Ardoino CTO ของ Bitfinex กล่าวว่า การเปิดตัวการซื้อขายมาร์จิ้นของ XAUT นั้นจะช่วยเพิ่มปริมาณการซื้อขายให้สูงมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้ผู้ที่ถือ XAUT ไม่ต้องเจอปัญหาในการจัดเก็บทองคำจริงที่ทำได้ยากและวุ่นวาย
ทางด้าน Bitfinex ยังได้เปิดตัวแอพฯมือถือเวอร์ชั่นล่าสุด สำหรับโทรศัพท์สมาร์ทโฟนทั้งระบบ iOS และ Android โดยแอพฯมือถือเวอร์ชั่นใหม่นี้ สามารถรองรับการฝากเงินด้วย Lightning Network ซึ่งจะช่วยให้การทำธุรกรรมมีค่าธรรมเนียมถูกลงและรวดเร็วมากขึ้น นอกจากนี้ ยังได้เพิ่มการรองรับ Tether Gold (XAUT) บนมือถืออีกด้วย
ตลาด Futures ทองคำรูปแบบใหม่
ล่าสุด เมื่อวันที่ 6 มีนาคม ที่ผ่านมา Bitfinex เปิดตัวบริการซื้อขายสัญญาล่วงหน้า (Futures contracts) สำหรับเหรียญ “Tether Gold (XAUT)” กับคู่เทรด Tether (USDT) เหรียญ Stablecoin ที่ผูกกับเงินดอลลาร์สหรัฐยอดนิยม
จากประกาศเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาทาง Bitfinex ระบุว่า การซื้อขายฟิวเจอร์สช่วยให้เทรดเดอร์สามารถซื้อขายสินทรัพย์ในอนาคตได้ในราคาและข้อมูลที่ระบุไว้ โดยมีอัตรามาร์จิ้นสูงสุดถึง 100 เท่า และยังกล่าวอีกว่าการซื้อขายฟิวเจอร์สและตราสารอนุพันธ์บน Bitfinex นั้นจัดทำโดย iFinex Financial Technologies ซึ่งเป็นแผนกผลิตภัณฑ์ของ iFinex บริษัทแม่ของ Bitfinex และ Tether นั่นเอง
โดยการซื้อขาย Tether Gold และบริการ Tether Futures นั้นจะจำกัดสำหรับผู้ใช้ที่ผ่านการตรวจสอบแล้วในบางประเทศเท่านั้น ซึ่งตามกฎของ Bitfinex นั้นผู้ใช้สามารถซื้อ – ขายหรือทำธุรกรรมด้วยสกุลเงินดิจิตอลต่าง ๆ โดยไม่ต้องยืนยันบัญชี แต่จะถูกจำกัดปริมาณในการฝาก – ถอนเงิน โดยผู้ใช้ที่ต้องการเพิ่มปริมาณการฝาก – ถอนสามารถยื่นยืนยันตัวตนกับทางบริษัทได้ในภายหลัง
ทางด้านโฆษกของ Bitfinex ได้ชี้แจงต่อ Cointelegraph ว่า เงื่อนไขการตรวจสอบผู้ที่มีสิทธิ์ในการซื้อขาย Tether Gold และ Tether Futures นั้นเหมือนกันกับเงื่อนไขในการเปิดบัญชีทั่วไป โดยประเทศที่ไม่ได้สามารถใช้งานได้คือ คิวบา เกาหลีเหนือ เวเนซุเอลา อิหร่าน ซีเรีย และไครเมีย
Tether Gold เริ่มต้นได้สวย Bitfinex หวังผลักดันเป็นสินค้าหลักตัวใหม่
ทาง Bitfinex มองว่าบริการ Futures จะช่วยเพิ่มมูลค่าการซื้อขายให้มากขึ้นไปอีก โดย Tether Gold มีมูลค่าตลาดทะลุ 21 ล้านเหรียญฯ ไปในวันที่ 4 มีนาคม ที่ผ่านมา และกลายเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่ผูกกับทองคำที่มีมูลค่าตลาดใหญ่ที่สุดในโลก แซงคู่แข่งอย่าง PAX Gold (PAXG) ไปเรียบร้อย โดยข้อมูลจาก Etherscan พบว่าล่าสุด Tether Gold มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 26.8 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ PAX Gold มีมูลค่าตลาดเพียง 18.7 ล้านดอลลาร์
PAX Gold เปิดตัวคร้งแรกในช่วงเดือนกันยายน 2019 ซึ่งเป็นสินทรัพย์สกุลเงินดิจิทัลตัวแรกที่มีการผูกกับทองคำจริง โดย Tether Gold ได้เปิดตัวตามมาติด ๆ ในเดือนมกราคมของปีนี้
ทางด้านนาย Ardoino ยังได้แสดงความคิดเห็นว่า Tether Gold มีการเริ่มต้นที่ดีมากและจะมีมูลค่าตลาดทะลุ 100 ล้านดอลลาร์ในไม่ช้า “ผมเชื่อว่าสิ่งนี้ไม่มีสินทรัพย์อะไรที่จะเทียบกับศักยภาพของสินทรัพย์ตัวใหม่นี้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการกระจายความเสี่ยงและความปลอดภัยของเงินทุนต่อความไม่แน่นอนทางการเมือง”
โดยทั้ง Bitfinex และ Tether ยังคงร่วมมือกันอย่างต่อเนื่องในตลาดสกุลเงินดิจิทัล แม้จะกำลังเผชิญกับคำฟ้องร้องและข้อกล่าวหาว่าพวกเขามีส่วนในการปั่นราคาของตลาดและไม่มีเงินทุนสำรองเก็บไว้อย่างเต็มจำนวนก็ตาม
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง: ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารเทคโนโลยีของ Bitfinex ยังเชื่อมั่นว่า Tether (USDT) คือ Stablecoin ที่ดีที่สุด