fbpx
Skip to content Skip to footer

Bitcoin Futures เครื่องมือที่ทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง

การซื้อขาย Cryptocurrency ในปัจจุบันเรามีโอกาสที่จะทำกำไรได้ต่อเมื่อราคาเป็นขาขึ้นเท่านัน แต่แท้จริงแล้วยังมีเครื่องมือที่ช่วยให้เราสามารถที่จะทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง ซึ่งเรียกว่าตราสารอนุพันธ์ (Derivative) 

ตราสารอนุพันธ์  ต่างจากการซื้อขาย Cryptocurrency ทั่วไปที่เราจะเป็นเจ้าของเงินสกุลดิจิทัลนั้นๆ เช่น หากเราซื้อ Bitcoin เราก็ได้เป็นเจ้าของ Bitcoin แต่ตราสารอนุพันธ์เราจะไม่ได้เป็นเจ้าของมันโดยตรงแต่เป็นการซื้อสัญญาล่วงหน้าแทน โดยสามารถเลือกได้ว่าจะซื้อสัญญาซื้อล่วงหน้า (Long Position) ในกรณีที่เรามองว่าราคา Cryptocurrency นั้นๆจะเป็นขาขึ้น หรือจะซื้อสัญญาขายล่วงหน้า (Short Position) กรณีที่เรามองว่าราคาจะเป็นขาลง โดยราคาของ Bitcoin Futures จะเคลื่อนไหวตามราคา Bitcoin จริงที่ซื้อขายอยู่ในตลาด 

ตราสารอนุพันธ์ ถูกนำมาใช้กับผลิตภัณฑ์การลงทุนมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นหุ้น ทองคำ น้ำมัน สินค้าโภคภัณฑ์ และล่าสุด Cryptocurrency ก็มีเครื่องมือดังกล่าวให้เลือกลงทุนแล้วเช่นกัน โดยตราสารอนุพันธ์ที่อ้างอิงกับ Bitcoin หรือ Bitcoin Futures มีให้ซื้อขายแล้วตั้งแต่ปี 2017 ในตลาด CME ที่ชิคาโก้ สหรัฐอเมริกา (ตอนแรกมีตลาด CBOE ด้วยแต่ภายหลังไม่มีสภาพคล่องซื้อขายจึงได้ยกเลิกไป) 

ขณะที่ Crypto Exchange บางแห่งอย่างเช่น Bitfinex ก็ให้บริการเทรดตราสารอนุพันธ์ของ Cryptocurrency ได้เช่นกัน แต่ไม่ได้เปิดให้กับผู้ที่ใช้ Fiat Currency ลงทุน  ล่าสุด Bakkt ได้รับใบอนุญาตให้สามารถเปิดซื้อขาย Bitcoin Futures ให้กับผู้ลงทุนทั่วไปได้แล้วในสหรัฐอเมริกา และมีแนวโน้มว่าจะมีตราสารอนุพันธ์ของ Cryptocurrency ให้ได้ลงทุนกันมากขึ้น

นอกเหนือจากซื้อขายได้ทั้งขาขึ้นและขาลง ตราสารอนุพันธ์มีคุณสมบัติและข้อควรระวังที่นักลงทุนต้องรู้ดังนี้

มี Leverage ช่วยเพิ่มผลตอบแทนสามารถใช้เงินลงทุนน้อยแต่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ในระดับสูง ตั้งแต่ 10 เท่าจนถึงหลักร้อยเท่า แต่แลกมาด้วยความเสี่ยงที่สูงขึ้นเช่นกัน หากเลือกลงทุนผิดทาง เช่น ทำการซื้อล่วงหน้า Bitcoin Future แต่ทิศทางกลับเป็นขาลง แทนที่จะได้ผลตอบแทนสูงก็จะขาดทุนสูงแทน

มีระยะเวลาการถือครองจำไว้ว่าตราสารอนุพันธ์ เป็นเพียงแค่การเก็งกำไรเท่านั้น ไม่ได้ถือครองสินทรัพย์จริงๆ หากเราซื้อ Bitcoin เก็บไว้เอง ต่อให้ขาดทุนมากเท่าไรแต่ถ้าเราไม่ขายออกมาก็ยังไม่เสียหาย แต่ถ้าเราปล่อยให้ตราสารอนุพันธ์ที่เราถืออยู่ขาดทุนไปเรื่อยๆ อาจมีสิทธิถูกบังคับขาย (Force Close) จากผู้ให้บริการซื้อขาย ดังนั้นหากเรารู้ตัวว่าผิดทางต้องตัดขาดทุนทันที

ต้องวางเงิน Margin ให้เหมาะสม  การเปิดให้ใช้เงินน้อยก็สามารถลงทุนตราสารอนุพันธ์ได้เป็นดาบสองคม เพราะผู้ที่วางเงินหลักประกันหรือ Margin ไม่ถูกต้องหรือเปิดสถานะมากเกินไป (Overtrade) โอกาสที่จะเสียหายจากการลงทุนจะยิ่งมีมากขึ้น

ตราสารอนุพันธ์ ยังมีข้อควรรู้ก่อนการลงทุนอีกมากที่นักลงทุนที่สนใจจะต้องศึกษา อย่างไรก็ตามรูปแบบของตราสารอนุพันธ์เข้าข่ายการเป็น Zero Sum Games หรือเมื่อมีอีกฝ่ายชนะต้องมีอีกฝ่ายแพ้เสมอ นักลงทุนจำนวนมากต้องมาเสียหายจากการลงทุนในอนุพันธ์ แม้แต่ผู้ที่มีประสบการณ์ในตลาดมามากมาย ผู้ที่สนใจจึงต้องศึกษาหาความรู้ให้มาก

มีคำกล่าวว่า อนุพันธ์ มีอนุภาพไม่ต่างจากระเบิดนิวเคลียร์ที่สามารถทำลายเมืองที่ใช้เวลาสร้างนับร้อยปีลงได้ในเวลาเพียงไม่กี่นาที อดีตที่ผ่านมาตลาดการเงินโลกก็พังทลายเพราะอนุพันธ์มาแล้ว ก่อนที่จะเข้ามาลงทุนจะต้องเข้าใจความเสี่ยงนี้ให้ดี

บทความอื่นที่เกี่ยวข้อง: ซื้อขาย Cryptocurrency ผ่าน Exchange 

Leave a comment

เกี่ยวกับ SuperCryptoNews

สื่อชั้นนำด้านบล็อกเชนและคริปโตในภูมิภาคเอเชีย นำเสนอข่าวสารด้านเทคโนโลยีและการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลอย่างรอบด้านและเจาะลึก ครอบคลุมทั้งภูมิภาคเอเชียเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะสิงคโปร์และประเทศไทย

สมัครรับข่าวสารจาก SCN