โอกาสที่ Bitcoin Cash (BCH) จะถูกแยกตัวออก (Hard Fork) ในเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ดูเหมือนจะมีความเป็นไปได้มากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจาก 63% ของ 1,000 บล็อกล่าสุดถูกขุดขึ้นโดยใช้ Bitcoin Cash Node (BCHN) ที่ได้รับเสียงสนับสนุนส่วนใหญ่จากชุมชน
โดยเจ้า BCHN นี้ดูเหมือนจะได้รับความนิยมนำหน้า BCH ในหลาย ๆ ด้าน โดยเฉพาะในหมู่นักขุด เนื่องจากกำลังขุด (Hashrate) กว่า 82% มีแนวโน้มจะสนับสนุนการมาของ BCHN รวมไปถึงพูลนักขุดเจ้าใหญ่อย่าง Bitcoin.com และ Antpool
มากไปกว่านั้น จากจำนวน Node ทั้งหมดของ Bitcoin Cash จำนวน 1,262 Nodes พบว่ามีถึง 746 Nodes ที่ให้การสนับสนุน BCHN โดยมีเพียง 516 Nodes เท่านั้นที่ยังให้การสนับสนุน Bitcoin ABC ที่นำโดย Amaury Sechet อยู่ (ก่อนหน้านี้ Bitcoin Cash ได้ทำการ Fork ออกมาเป็นน Bitcoin ABC และ Bitcoin SV โดย Bitcoin ABC ได้รับเสียงสนับสนุนมากกว่าและคงใช้ชื่อ Bitcoin Cash ต่อไป)
โดยความขัดแย้งล่าสุดนี้เกิดขึ้นในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา หลังนาย Amaury Sechet ได้เสนอให้ BCH เลือกใช้ “Coinbase Rule” หรือการดึงส่วนแบ่งจากรางวัลของนักขุดมา 8% เพื่อนำมาสร้างกองทุนสนับสนุนการพัฒนาระบบที่ควบคุมโดยนาย Sechet
เปรียบง่าย ๆ เหมือนกับการที่ BCH จะเก็บภาษี 8% โดยอ้างว่าจะนำมาใช้สนับสนุนเหล่านักพัฒนา แต่ไอเดียนี้ไม่ได้รับการยอมรับจากชุมชนของ Bitcoin Cash และถูกกระแสตีกลับโดยคนส่วนมากเลือกให้การสนับสนุน BCHN ที่ทุนสำหรับเหล่านักพัฒนาจะมาจากการบริจาคของคนในชุมชน
ล่าสุด นาย Sechet ให้สัมภาษณ์กับสื่อ Cointelegraph ถึงกระแสความเป็นไปได้ของการแยกตัวออกเป็นสองเชนว่า “เชนของ BCHN นั้นสามารถใช้บล็อกที่ถูกขุดบน BCH ได้ แต่ BCH จะไม่เลือกใช้บล็อกที่ขุดจาก BCHN นั่นหมายความว่า หาก BCHN มีกำลังขุดมากกว่า BCH แล้วนั้นจะมีการ Hard Fork แยกเชนกันเกิดขึ้น”
นอกจากชี้นาย Sechet ยังชี้ให้เห็นถึงอีกความเป็นไปได้หนึ่งที่ BCH มีกำลังขุดมากกว่าและสร้างบล็อกแซงหน้า BCHN ไปได้ว่า “ในทางกลับกัน ถ้าวันใดวันหนึ่งเชนของ BCH มีความยาว (จำนวนบล็อก) มากกว่า BCHN แล้วนั้น เชน BCHN จะไม่มีความน่าเชื่อถือเหลือและถูกทำลายลงไปในที่สุด”
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง: Roger Ver: เสรีภาพทางเศรษฐกิจและการมาของเงินดิจิทัล