ปี 2020 ที่กำลังจะผ่านไปถือเป็นปีที่ดีของ Bitcoin ในแง่ของราคาที่ถูกแรงซื้อในฐานะ Safe Haven แต่ปี 2021 ที่กำลังจะมาถึงน่าจะเป็นปีที่ดีของสกุลเงินดิจิทัลอันดับหนึ่งในแง่ของปัจจัยพื้นฐานที่มีความแข็งแกร่งขึ้น
หากปี 2020 ที่เกิดการทำ Bitcoin Halving จนทำให้พื้นฐานฝั่งซัพพลายแข็งแกร่งขึ้นด้วยจำนวน BTC ที่เกิดใหม่น้อยลง ปี 2021 จะเป็นปีที่มีปัจจัยบวกที่ทำให้เกิดพื้นฐานฝั่งดีมานด์ที่เข้มแข็งขึ้น
ข้อแรก..การมาของสกุลเงินดิจิทัลของ Facebook ภายใต้ชื่อใหม่ว่า Diem แม้ว่าจะไม่ได้ทำการซื้อขายบิทคอยน์หรือ Altcoin โดยตรง แต่จะมีผลทางอ้อมทำให้คนทั่วไปรู้จักและเข้าถึงสกุลเงินดิจิทัลมากขึ้นเป็นตัวเร่งให้เกิด Mass Adoption
ข้อสอง..ภาคธุรกิจเริ่มนำสกุลเงินดิจิทัลมาใช้งานมากขึ้น อย่างเช่น Sportify ที่เป็นสว่นหนึ่งของสมาคม Libra ก็ประกาศแผนที่จะรับชำระเงินด้วยสกุลเงินดิจิทัลที่เชื่อมโยงกับการใช้ Stablecoin ของ Diem เป็นไปได้อย่างยิ่งที่เราจะได้เห็นธุรกิจออนไลน์หันมาเปิดรับสกุลเงินดิจิทัล
ข้อสาม..สถาบันการเงินหันมาให้บริการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลมากขึ้น ปี 2020 เราได้เห็น Paypal และ DBS ประกาศที่ให้บริการดังกล่าว ขณะที่ Visa เริ่มแหย่เท้าเข้ามานิดๆ ปีหน้าเราน่าจะได้เห็นสถาบันการเงินที่ให้บริการธุรกรรมเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลอีกแน่นอน
ขณะที่การเกิดขึ้นของสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางหรือ CBDC โดยเฉพาะหยวนดิจิทัลของจีนอาจจะไม่ส่งผลบวกโดยตรงต่อสกุลเงินดิจิทัล แต่น่าจะมีส่วนทำให้คนทั่วไปเริ่มรู้จักกับสกุลเงินดิจิทัลทางอ้อม
ทั้งหมดนี้คือสามเหตุผลที่ช่วยหนุนปัจจัยทางพื้นฐานของสกุลเงินดิจิทัลให้เติบโตได้ต่อเนื่องในปี 2021 หวังว่าจะเป็นปีที่ตื่นเต้นมากกว่าปีนี้
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง : จับเข่าคุย CZ แห่ง Binance โบกมือลาปี 2020 พร้อมเตรียมแผนเตรียมรับตลาดทุนคริปโตที่ใหญ่ที่สุดของโลก
วิเคราะห์กราฟเทคนิค BTC
BTC ระยะสั้นต้องผ่านแนวต้าน 19,600 ดอลลาร์ ไปให้ได้ถึงจะแสดงถึงโมเมนตัมขาขึ้นและหากผ่านไปได้แต่ยังไม่สามารถขึ้นไปสร้าง All Time High ใหม่ที่ระดับเหนือกว่า 20,000 ดอลลาร์ ได้แรงส่งขาขึ้นอาจจะแผ่วลงจนเกิดการปรับฐานลง
แนวรับที่ต้องจับตาคือเส้น EMA9 ซึ่งประคองแนวโน้มขาขึ้นของ BTC มาโดยตลอด แต่ากเกิดการปรับฐานแรงจะมีแนวรับที่เส้น EMA35 หรือที่ระดับ 16,000 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นโลว์เดิมของการปรับฐานแรงในรอบที่แล้ว
กลยุทธ์การลงทุนผู้ที่ถืออยู่แล้วหาก BTC ไม่สามารถทะลุเหนือ 20,000 ดอลลาร์ อาจต้องทำใจขายไปก่อนหรือเปิด Short สำหรับผู้ที่ยังรอซื้อมีทางเลือกคือรอให้ผ่าน 20,000 ดอลลาร์ แล้วซื้อตามหรือรอให้ปรับฐานจนนิ่งก่อนแล้วค่อยเข้าซื้อ
บทความอื่นที่เกี่ยวข้อง : Wall Street เตรียมเปิดตัวดัชนีบล็อกเชนในปี 2021
วิเคราะห์กราฟเทคนิค ETH
ระยะสั้น ETH มีแนวต้านที่ 625 ดอลลาร์ หากผ่านไปได้จะมีแนวต้านสำคัญที่จุดสูงสุดเดิม 636 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดเดิมของรอบที่ผ่านมา หากผ่านไปได้ถึงจะยืนยันแนวโน้มขาขึ้นที่ชัดเจน แต่หากไม่สามารถผ่านไปได้อาจมีการปรับฐานลง
แนวรับที่ใช้รอซื้อนอกจาก EMA9 ยังใช้แนวรับตาม Fibonacci แนวแรกคือ 571 ดอลลาร์ หากมีการปรับฐานแรงอาจลงไปได้ลึกถึงเส้น EMA35
บทความอื่นที่เกี่ยวข้อง : กูรูคาด DeFiกุญแจสำคัญพลิกโฉมภาคการเงินภูมิภาคASEAN