ถึงตอนนี้นักเทรดหรือสาย Hodl หลายคนน่าจะเฝ้ามองวันที่ Bitcoin จะสร้างจุดสูงสุดใหม่เหนือระดับ 20,000 ดอลลาร์ ที่เคยเกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2017 แต่คำถามสำคัญคงไม่ใช่ว่าจะถึงหรือไม่และถึงเมื่อไร แต่เป็นหลังจากสร้างจุดสูงสุดใหม่แล้วจะเป็นอย่างไรต่อไป??
สิ่งหนึ่งที่น่าจะเกิดขึ้นคือ Bitcoin จะยังสามารถสร้างผลตอบแทนในระดับเลขสามหลักหรือเกินร้อยเปอร์เซ็นต์ได้อีกหรือไม่?? หลังจากปี 2019 และ 2020 ถือเป็นปีที่บิทคอยน์สร้างผลตอบแทนได้ดีที่สุดในบรรดาสินทรัพย์ต่างๆ
หากวัดเป้าหมายด้วย Fibonacci Retracement หากบิทคอยน์สามารถผ่าน 20,000 ดอลลาร์ไปได้จะมีเป้าหมายถัดไปที่แนวต้านระดับ 161.8 ที่ 30,255 ดอลลาร์ ซึ่งวัดเป็นผลตอบแทนจากระดับ 20,000 ดอลลาร์ ก็จะสร้างผลตอบแทนเพียง 52% เท่านั้น
หลังจากสร้าง All Time High ใหม่ได้เราอาจจะได้เห็นผลตอบแทนการลงทุนในระยะสั้นของบิทคอยน์ (แบบปีต่อปีหรือ YTD) ที่ลดลง รวมถึงความผันผวนที่จะเพิ่มขึ้นจากการที่สาย Hodl ที่ถือมาตั้งแต่ราคาไม่ถึงหลักหมื่นดอลลาร์พร้อมที่จะเทขายได้ตลอดเวลา
หากไม่ผิดพลาดไปจากนี้เราน่าจะได้เห็นจุดสูสุดใหม่ของบิทคอยน์ก่อนวันคริสมาสต์ปี 2020 หรือภายในเดือนมกราคม 2021
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง : จับตา Bitcoin คาดราคาพุ่งแตะ 2 หมื่นดอลลาร์ณสิ้นปี
วิเคราะห์กราฟเทคนิค BTC
BTC ลงมาทดสอบแนวรับตาม Fibonacci ที่ 16,177 ดอลลาร์ได้พอดีและมีการเด้งคืนที่จะทดสอบจุดสูงสุดเดิมที่ 19,537 ดอลลาร์ หากผ่านไปได้ก็จะมีด่านทดสอบสำคัญที่ระดับ 20,000 ดอลลาร์
หากผ่านระดับ 20,000 ดอลลาร์ไปได้จะมีด่านต่อไปที่แนว Fibonacci 161.8 ที่ระดับราคา 30,000 ดอลลาร์ ซึ่งจะมีอัพไซด์จากระดับ 20,000 ดอลลาร์ ประมาณ 45% แต่หากไม่สามารถผ่านระดับ 19,537 ดอลลาร์ ไปได้ แนวรับระยะสั้นคือ 16,177 ดอลลาร์ ซึ่งสามารถรับอยู่ในช่วงที่ผ่านมา หากบิทคอยน์ไม่มีแรงส่งมากพอให้เป็นขาขึ้น อาจจะเคลื่อนไหวแบบไซด์เวย์ไปก่อนเพื่อสะสมพลังรอบใหม่
บทความอื่นที่เกี่ยวข้อง : Facebook เล็งออก Libra USD Stablecoin ในช่วงต้นปีหน้า
วิเคราะห์กราฟเทคนิค ETH
การปรับฐานรอบที่ผ่านมาของ ETH ลงมาทดสอบแนวรับที่ 480 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดเดิมที่สามารถ Breakout มาได้ทำให้แนวโน้มทางเทคนิคยังคงสร้างจุดสูงสุดใหม่ (Higher High) โมเมนตัมขาขึ้นจึงยังไม่เสียไป ประกอบกับ RSI ผ่อนคลายจากจุด Overbought พร้อมที่จะทดสอบจุดสูงสุดเดิม
แนวต้านถัดไปของ ETH คือจุดสูงสุดเดิมที่เคยข้ึนทดสอบแต่ยังไม่ผ่านที่ระดับ 612 ดอลลาร์ หากผ่านไปได้จะมีแนวต้านถัดไปที่ 811 ดอลลาร์ตามแนว Fibonacci ขณะที่แนวรับไม่ควรจะต่ำกว่า 480 ดอลลาร์
บทความอื่นที่เกี่ยวข้อง : สหรัฐ VS จีนใครจะเป็นผู้ชนะในสังเวียน CBDC?