นักเทรดคริปโตทั้งมือเก่าและมือใหม่อาจจะเบื่อหน่ายกับราคา BTC ที่ไม่ตื่นเต้นเร้าใจเท่ากับโทเคนสาย DeFi ที่ก่อนหน้านี้สร้างผลตอบแทนได้อย่างหวือหวา (ก่อนที่หมีจะเข้าสิงมานานหลายสัปดาห์แล้ว)
ค่าความผันผวนของ BTC ในปีนี้ลดลงเหลือระดับ 50 จุดจากจุดสูงสุดที่เคยวิ่งขึ้นไปแตะระดับ 90 จุด (ข้อมูลจากบริษัทหลักทรัพย์ทรินิตี้) บ่งบอกได้ว่า BTC ไม่ใช่สินทรัพย์ที่จะเหวี่ยงตัววันละเลขสองหลักอีกต่อไป ทุกวันนี้กรอบการเคลื่อนไหวอยู่ในระดับเพียง 2-3% ต่อวัน
แต่นี่ก็เพียงพอที่จะทำให้ BTC ยังคงมีความสำคัญต่อตลาดคริปโต เพราะนักลงทุนสถาบันคงไม่อยากนำเงินของลูกค้ามาเสี่ยงกับสินทรัพย์ที่เหวี่ยงตัวเป็น Roller Coster และเมื่อใดที่นักลงทุนสถาบันที่มีเงินทุนระดับล้านล้านดอลลาร์เข้ามาในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้นย่อมจะทำให้ตลาดนี้เติบโตได้มั่นคง
รวมถึงการที่นักลงทุนหน้าใหม่ที่จะเข้ามาในตลาดนี้ แม้ผลตอบแทนของ DeFi จะเย้ายวนให้พวกเขาอยากเข้ามาในสนาม แต่ถ้าถามคนเดินถนนทั่วไปว่าพวกเขาจะรู้จักเหรียญคริปโตอะไรบ้าง คำตอบคงไม่ใช่ Uniswap หรือ Yearn Finance แต่ยังคงเป็น Bitcoin ที่พวกเขารู้จักและได้ยินกิติศัพท์มามากที่สุด
หาก BTC ยังคงความเป็นขาขึ้น ตลาดคริปโตจะยังคงได้รับความเชื่อมั่นต่อไป แม้ท้ายที่สุดจะเกิดฟองสบู่แตกของ DeFi เช่นเดียวกับที่เกิดกับ ICO ในปี 2017 แต่ท้ายที่สุดพี่ใหญ่อย่าง Bitcoin จะยังช่วยประคองตลาดนี้ให้เดินหน้าต่อไปได้
วิเคราะห์กราฟเทคนิค BTC
BTC ยังคงเคลื่อนไหวแบบไซด์เวย์ต่อไป แต่สิ่งที่น่าสนใจคือแนวโน้มเริ่มมีการยกตัวของราคาที่สูงขึ้นหรือไม่ทำนิวโลว์ใหม่ หากสัปดาห์นี้สามารถยืนเหนือระดับ 11,000 ดอลลาร์ได้ ภาพการพลิกกลับมาเป็นขาขึ้นจะยิ่งชัดเจนขึ้น
หากใช้เครื่องมืออย่าง Bollinger Band ซึ่งเหมาะสมกับแนวโน้มที่ไซด์เวย์ จะเริ่มเห็นแนวโน้มที่ราคา BTC เริ่มบีบตัวแคบอีกครั้งซึ่งอาจจะเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงของราคาครั้งสำคัญในเร็ว ๆ นี้ ไม่ว่าจะเป็นทั้งทางขึ้นหรือลง รวมถึง Price Pattern แบบสามเหลี่บมบีบตัว (Symetrical Triangle) ที่อาจทำให BTC ต้องเลือกทางในเร็วๆนี้
แนวต้านแรกของ BTC อยู่ระหว่าง 11,500 กับ 12,000 ดอลลาร์และมีแนวต้านสำคัญอยู่ที่ 12,500 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดเดิมของปีนี้ซึ่งกำลังรอที่จะถูกทดสอบอีกครั้ง
บทความอื่นที่เกี่ยวข้อง : โพลสำรวจเผยคนส่วนใหญ่ไม่เชื่อโมเดลทำนายราคาบิทคอยน์ S2F ของ PlanB อีกต่อไป!
วิเคราะห์กราฟเทคนิค ETH
แม้ว่าภาพระยะยาวของ ETH จะยังเป็นขาขึ้นโดยเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบเทรนด์ไลน์ที่ลากมาตั้งแต่ลงไปทำจุดต่ำสุดในเดือนมีนาคมปีนี้ แต่ภาพระยะสั้นราคาถูกดดันเป็นแนวโน้มขาลงอย่างต่อเนื่อง
หากไม่สามารถยืนเหนือระดับ 380 ดอลลาร์ได้ ETH มีโอกาสที่จะลงมาทดสอบระดับ 320 ดอลลาร์โดยประมาณตามกรอบเส้นเทรนด์ไลน์ด้านล่างหรือ 310 ดอลลาร์ตามแนว Fibonacci หากไม่หลุดลงไปจากนี้ในภาพใหญ่ยังประคองตัวเป็นขาขึ้นในระยะยาวได้ แต่หากรับไม่อยู่อาจพลิกกลับเป็นขาลงครั้งใหญ่ได้
แนวต้านแรกที่ ETH ต้องผ่านไปให้ได้คือ 380 ดอลลาร์เพราะจะเป็นการทำ Higher High ครั้งแรกก่อนจะสามารถขึ้นไปทดสอบแนวต้านต่อไปที่ระดับ 400 ดอลลาร์
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง: YFI อาการหนัก! เบรคแพทเทิร์น H&S ราคาจ่อร่วงยาว
