เมื่อคืนที่ผ่านมาราคา Bitcoin ปรับตัวขึ้น 8% ทำการ Breakout เทรนด์ไลน์พุ่งทะลุระดับ 10,000 ดอลลาร์เป็นที่เรียบร้อย ก่อนที่จะถึงกำหนด Bitcoin Halving ในอีกไม่ถึงสามวันข้างหน้า
ปัจจัยสนับสนุนสำคัญมาจากคำพูดของนาย Paul Todor Jones ผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์ชื่อดังที่ออกมาประกาศผ่านสำนักข่าว Bloomberg ว่าได้ลงทุนใน Bitcoin Futures เพื่อรองรับกับภาวะเงินเฟ้อที่จะเกิดขึ้นภายหลังธนาคารกลางทั่วโลกพิมพ์เงินเข้าสู่ระบบจำนวนมากเพื่ออัดฉีดกระตุ้นเศรษฐกิจ
แม้จะระบุว่าได้ลงทุนเป็นจำนวนเล็กน้อยเมื่อเทียบกับพอร์ตลงทุนทั้งหมด แต่ถือว่าได้สร้างความเชื่อมั่นให้กับตลาดเป็นอย่างมากเพราะถือเป็นครั้งแรกที่กองทุนเฮดจ์ฟันด์ขนาดใหญ่เข้าลงทุนในบิทคอยน์ และตัวนาย Paul Todor Jones เองมีสินทรัพย์ส่วนตัวถึง 5 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1.6 แสนล้านบาท
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่ากระทรวงการคลังสหรัฐฯจะก่อหนี้เพิ่มขึ้นอีก 96,000 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่สองนี้ ขณะที่ยอดการขาดดุลงบประมาณได้พุ่งสูงถึงระดับ 4 ล้านล้านดอลลาร์ ทำให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงส่งผลบวกต่อสินทรัพย์ที่มีปริมาณจำกัดอย่าง Bitcoin
ปัจจัยทางเทคนิคของ Bitcoin หลังจากนี้ แนวต้านต่อไปคือจุดสูงสุดเดิมที่ 10,500 ดอลลาร์หากผ่านไปได้ก็จะทดสอบระดับ 11,240 ดอลลาร์ ตามแนว Fibonacci ส่วนแนวรับอยู่ที่ระดับ 9,648 ดอลลาร์ หรือใช้เส้นเทรนด์ไลน์ที่ Breakout เป็นแนวรับ อย่างไรก็ตามค่า RSI เริ่มเข้าสู่ภาวะ Overbought แล้ว ระยะสั้นอาจมีการย่อตัวลงบ้าง
ขณะที่ราคาทองคำที่ปรับตัวขึ้นกว่า 20 ดอลลาร์กลับมายืนเหนือระดับ 1,700 ดอลลาร์อีกครั้ง ขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปี ร่วงลงต่ำกว่าระดับ 0.70% หลังการเปิดเผยตัวเลขผู้ว่างงานที่พุ่งขึ้นในสหรัฐ จำนวน 3.17 ล้านรายในสัปดาห์ที่แล้ว จากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.05 ล้านราย
ขณะที่ดัชนี SCN30 Index อยู่ที่ระดับ 148.87 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเมื่อวานที่ระดับ 147.20 โดย Monero ปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 11.36% แตะระดับ 65 ดอลลาร์ ขณะที่ Ethereum พุ่ง 5.46% แตะระดับ 213 ดอลลาร์
บทความอื่นที่เกี่ยวข้อง : 4 เหตุผลที่ควรลงทุนในบิทคอยน์ตอนนี้ทันที!!
